ครึ่งแรกหยุดยาวจีน “โกลเด้นวีค” คนเดินทางคึกคักแต่รายได้ลดลง 31%

สถิติ “โกลเด้นวีค” ช่วงหยุดยาวจีน ครึ่งแรกผู้คนออกไปเที่ยวคึกคัก แต่รายได้ลดลง 31% เทียบกับปีที่แล้ว

สำนักข่าวเซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์รายงานว่า ปลัดกระทรวงวัฒนธรรมและท่องเที่ยวของจีน เปิดเผยถึงสถิติการท่องเที่ยวและใช้จ่าย เทศกาลวันหยุดยาวจีน “โกลเด้น วีค” ช่วง 4วันแรก( 1-4ต.ค.) มีรายได้อยู่ที่ 312 พันล้านหยวน (1.4 ล้านล้านบาท) ลดลง 31% จากปีก่อนหน้า โดยยอดนักท่องเที่ยวเหลือ 425 ล้าน ลดลง 12% จากปีก่อนหน้า แสดงให้เห็นถึงอุปสรรคที่จีนต้องเผชิญเมื่อมุ่งเน้นอุปสงค์จากคนในประเทศเป็นหลัก แต่สถานการณ์ก็ดีกว่าช่วงโควิด-19 ระบาด

ทั้งนี้สัปดาห์ “โกลเด้น วีค” ของจีนตรงกับวันที่ 1-8 ตุลาคมปีนี้ ชนกับเทศกาลวันหยุดช่วงกลางฤดูใบไม้ร่วง เป็นช่วงที่ครอบครัวมักจะกลับมารวมตัวกัน ทำให้วันหยุดยาวขึ้นจากเจ็ดเป็นแปดวัน และเนื่องจากแถบสหรัฐและยุโรปยังมีโรคโควิด-19 ระบาด ทำให้ต้องท่องเที่ยวภายในประเทศจีนแทน

แม้จำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้จะลดลง แต่ยังคงมีผู้คนมากตามสถานที่ท่องเที่ยว สถานีรถไฟ และรถติดตามถนน โดยสถานที่อย่างพระราชวังต้องห้าม (Forbidden City) เมื่อช่วงวันหยุดที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยว 30,000 คน ตามข้อจำกัดใหม่ ต่างกับตอนกลับมาเปิดทำการเมื่อเดือนพฤษภาคมที่อนุญาตนักท่องเที่ยวเพียง 5,000 คน

นอกจากนี้ การใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชั่น “วีแชท” (WeChat) แอพจ่ายเงินดิจิทัล ตามสถานที่ท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 83% และการใช้จ่ายโรงแรม ที่พักเพิ่มขึ้น 71% เมื่อเทียบกับช่วงวันหยุดแรงงาน 1-3 พฤษภาคมที่ผ่านมา และมีรายงานว่าผู้ใช้วีแชทใช้จ่ายในร้านค้าสินค้าปลอดภาษี (Duty Free) และห้างสรรพสินค้าทั่วไปเพิ่มขึ้น 50% และ 30% ตามลำดับ และมีการใช้จ่ายเพิ่ม 50% ตามเมืองเล็กๆ ของจีนด้วย