ทางการสหรัฐเผยเดือนกันยายน ผู้หญิงออกจากงานมากกว่าผู้ชายถึง 8 เท่า โควิด-19 ทำให้ผู้หญิงไม่มีงานทำ และต้องออกมาดูแลลูก
วันที่ 10 ตุลาคม 2563 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ทางการสหรัฐเปิดเผยว่า เดือนกันยายนที่ผ่านมา ผู้หญิงออกจากงานมากกว่าผู้ชายถึง 8 เท่า โดยมีผู้หญิงต้องออกจากงาน 617,000 คน ขณะที่มีผู้ชายออกจากงานเพียง 78,000 คน โดยผู้หญิงครึ่งหนึ่งอยู่ในช่วงอายุ 35-44 ปี โดยการระบาดโควิด-19 ยังคงทำให้ความไม่เท่าเทียมกันในเศรษฐกิจของอเมริกาทวีความรุนแรงขึ้น
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
ขณะที่อัตราการว่างงานสหรัฐลดลง แต่อัตราว่างงานของผู้หญิงทั้งประเทศอยู่ที่ 8% สาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงต้องออกจากงานมากกว่าผู้ชาย มาจากอุตสาหกรรมที่ผู้หญิงทำงานส่วนใหญ่อย่างธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างหนักจนถูกบังคับให้ “ลาออก”
นอกจากนี้ มาตรการล็อกดาว์นอยู่บ้าน ทำให้แต่ละครอบครัวต้องมีคนรับผิดชอบงานบ้าน และดูแลลูกในช่วงที่โรงเรียนปิดทำการ ทำให้ผู้หญิงจำนวนมากเลือกที่จะออกจากงานมาดูแลลูก และให้ฝ่ายชายทำงานแทน
“รัซเซล ไพรซ์” ประธานบริษัทการเงินอเมริไพรซ์ (Ameriprise) กล่าวว่า อีกปัจจัยที่ทำให้ผู้หญิงออกจากงาน เนื่องจากช่วงนี้มีบริการดูแลเด็กน้อยลงถึง 18% ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับช่วงก่อนมีโรคระบาด ทำให้ไม่มีทางเลือก นอกจากให้คุณแม่มาดูแลเด็กที่บ้านเอง
ถ้าไม่มีทางเลือกบรรดาแม่ ๆ อาจจะไม่สามารถกลับไปทำงานได้อีก และจะมีผลกระทบต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจอย่างมาก