โควิด-19 กลับมาระบาดในทวีปยุโรปอีกครั้ง รัฐบาลแต่ละประเทศยกระดับมาตรการคุมเข้มรับมือกับวิกฤตครั้งนี้
สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่าหลังจากโรคโควิด-19 กลับมาระบาดอย่างหนักในทวีปยุโรป รัฐบาลแต่ละประเทศต่างกลับมาวางหรือเพิ่มมาตรการล็อกดาว์น ซึ่งล่าสุดทั้งทวีปยุโรปมีผู้ติดเชื้อ 6.5 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิต 2.3 แสนคน
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
รัฐบาล “สหราชอาณาจักร” สั่งให้กรุงลอนดอน และเมืองใหญ่อย่างเอสเซกซ์ และยอร์ก ล็อกดาวน์ระดับ “เทียร์ 2” (Tier 2) ซึ่งมีกฏหมายการห้ามให้ครอบครัวต่างบ้าน มาเจอกันในสถานที่ในร่มอย่างผับและร้านอาหาร โดยสามารถเจอกันกลางแจ้งได้แค่ 6 คน และจำกัดคนไปงานแต่งงานได้แค่ 15 คนและงานศพแค่ 30 คน
“ฝรั่งเศส” ได้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินโดย นายกรัฐมนตรี “เอมมานูเอล มาครง” และมีการกำหนดเคอร์ฟิวในปารีสและเมืองใหญ่อื่น ๆ บังคับให้ทุกคนอยู่บ้านตั้งแต่ 21.00 น. ถึง 06.00 น. ซึ่งการจัดงานต่าง ๆ อย่างงานแต่งหรืองานเลี้ยงไม่สามารถจัดได้ ผู้คนรวมตัวกันได้เพียง 10 คน และบังคับการใส่แมสก์ในที่ร่ม
“สเปน” ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน 15 วันในเมืองแมดริดและเมืองโดยรอบตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคม ห้ามนัดเจอกันเกิน 6 คน และจำกัดผู้คนในร้านอาหาร โรงแรม และในธุรกิจต่างๆ ให้เหลือเพียง 50% นอกจากนี้ “แคว้นกาตาลุญญา” ยังถูกสั่งให้ปิดบาร์และร้านอาหารตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม และเปิดแค่บริการดีลิเวอรี่เท่านั้น
“เนเธอร์แลนด์” ประกาศวันที่ 14 ต.ค. ให้ปิดร้านอาหาร ร้านกาแฟ เปิดแค่บริการดีลิเวอรี่ ห้ามมีการทำธุรกิจ อย่างการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และร้านค้าที่ไม่ใช่ซูเปอร์มาร์เก็ตหลัง 20.00 นอกจากนี้อนุญาตให้คนไปเยี่ยมบ้านแค่ 3 คน และนัดเจอกันได้แค่ 4 คนบริเวณกลางแจ้ง
“เยอรมนี” ปรับคนที่ไม่ใส่แมสก์ 50 ยูโร (1,800 บาท) สั่งปิดร้านอาหารและบาร์ในเมืองเบอร์ลินหลัง 23.00 น. ผู้คนสามารถรวมตัวกันได้เพียง 10 คนในช่วงกลางวัน และรวมตัวกันได้เพียง 5 คน หรือแค่สองครอบครัวช่วงเวลากลางคืน
ประเทศในยุโรปโซนอื่น ๆ ก็ได้มีมาตรการเพิ่มเติมอย่าง อิตาลี เดนมาร์ก เบลเยี่ยม โปรตุเกส กรีซ สวีเดน และสาธารณรัฐเช็ก เพื่อรับมือกับการระบาดรอบใหม่ของโควิด-19 ทั่วยุโรปครั้งนี้
