
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า บรรดาผู้นำการเงินจากทั่วโลกได้รับคำเตือนเมื่อวันที่ 13 ตุลาคมว่า ให้จัดการสถานการณ์ภายในประเทศของตนให้เป็นระเบียบเรียบร้อยในขณะที่เศรษฐกิจโลกยังแข็งแกร่ง เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นในอนาคต
นายจิม ยอง คิม ประธานธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) และนางคริสตีน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวว่า หลายๆ ประเทศต้องจัดการกับหนี้ที่เพิ่มมากขึ้นและความไม่เท่าเทียมกันอย่างลึกล้ำในตอนนี้ ก่อนที่เป็นไปได้ว่าจะเกิดความเสื่อมถอยจากการที่ยุคเงินกู้หรือสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำจากนโยบายของธนาคารกลางต่างๆ ใกล้ที่จะสิ้นสุดลง ซึ่งรวมถึงการลดหนี้สาธารณะและลดการพึ่งพาการไหลเวียนของเงินทุนที่ผลักดันราคาสินทรัพย์ของการลงทุน อาทิหุ้นและอสังหาริมทรัพย์ให้ลอยตัว

“หลังช่วงเวลาหลายปีของอัตราการเติบโตที่น่าผิดหวัง เศรษฐกิจโลกเริ่มต้นที่จะเร่งความเร็วขึ้น” นายคิมกล่าวในการเปิดงานประชุมประจำปีของไอเอ็มเอฟ-เวิลด์แบงก์ในกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา วันเดียวกันนี้
“การค้าแข็งแกร่งขึ้น แต่การลงทุนยังคงอ่อนแอ เราเป็นกังวลว่า ความเสี่ยงอย่างการเพิ่มขึ้นของการกีดกันทางการค้า ความไม่แน่นอนทางนโยบาย หรือความเป็นไปได้ที่จะเกิดความวุ่นวายในตลาดเงินอาจทำลายการฟื้นตัวที่เปราะบางนี้ ทำให้หลายๆ ประเทศจำเป็นต้องสร้างความยืดหยุ่นเพื่อรับมือกับความท้าทายหลากหลายที่เราต้องเผชิญในวันนี้ อาทิ โลกร้อน ความอดอยาก ภัยพิบัติธรรมชาติ อาทิ เฮอริเคนที่ทำลายเศรษฐกิจของภูมิภาคแคริบเบียนจนพังทลายเมื่อไม่นานนี้
ด้านนางลาการ์ดกล่าวว่า แม้ว่าไอเอ็มเอฟเพิ่งจะปรับเพิ่มประมาณการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกขึ้นเป็น 3.6 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ และ 3.7 เปอร์เซ็นต์ในปี 2561 แต่ก็ยังไม่ใช่เวลาที่จะพึงพอใจได้ โดยเธอเตือนว่า “นี่เป็นเวลาต้องตัดสินใจเรื่องนโยบายที่จะทำให้มีผู้คนในหลายๆ ประเทศได้รับผลประโยชน์มากยิ่งขึ้นเพื่อจะทำให้การฟื้นตัวนั้นยั่งยืน”
ที่มา มติชนออนไลน์