อังกฤษ-เยอรมัน-ฝรั่งเศส ล็อกดาวน์ทั่วประเทศ รอบ 2 หลังคุมโควิดไม่ไหว

ล็อกดาวน์

นายกฯอังกฤษสั่งล็อกดาวน์ทั่วประเทศรอบ 2 ตลอดเดือนพ.ย. หลังผู้ติดเชื้อทะลุ 1 ล้านราย ให้ประชาชนอยู่บ้าน ปิดร้านค้า-ร้านอาหารและสถานบริการต่างๆ หลังจาก “เยอรมัน-ฝรั่งเศส” ประกาศยกระดับไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ชาวปารีสแห่เดินทางออกไปล็อกดาวน์นอกเมือง

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า นายกรัฐมนตรีอังกฤษ “บอริส จอห์นสัน” ประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศ เป็นครั้งที่ 2 ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วสหราชอาณาจักรเกิน 1 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 4.6 หมื่นราย โดยมาตรการล็อกดาวน์ครั้งนี้จะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย. – 2 ธ.ค.

ตามประกาศร้านค้าสำหรับสินค้าที่ไม่มีความจำเป็น ร้านอาหาร ผับ และธุรกิจบริการต่าง ๆ จะต้องปิดนาน 1 เดือน ยกเว้นร้านอาหารที่เปิดให้บริการแบบดีลิเวอรี

โดยประชาชนได้รับคำแนะนำให้อยู่ในที่พักอาศัย ยกเว้นมีเหตุผลอย่างการไปสถานศึกษา การทำงาน การออกกำลังกาย การซื้อของ เหตุผลทางการแพทย์ ถึงจะสามารถออกจากที่พักอาศัยได้

อย่างไรก็ตามมาตรการล็อกดาวน์ครั้งนี้ต่างจากในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เพราะสถานศึกษาจะได้รับอนุญาตให้เปิดต่อไป โดยนายกฯ อังกฤษย้ำว่า “เราไม่อาจปล่อยให้เชื้อไวรัสมาทำลายอนาคตลูกหลานของเรามากไปกว่านี้ได้อีกแล้ว”

สำหรับคำสั่งปิดประเทศอังกฤษมาจากรัฐบาลกลางของสหราชอาณาจักร ประกอบด้วย 4 ชาติ คือ อังกฤษ สกอตแลนด์ ไอร์แลนด์เหนือ และเวลส์ ขณะที่ก่อนหน้านี้ รัฐบาลของเวลส์ ได้ประกาศล็อกดาวน์เป็นเวลา 17 วัน สั่งให้ประชาชนอยู่บ้าน ระหว่าง 23 ต.ค. ถึง 9 พ.ย.

“คริสต์มาสปีนี้จะไม่เหมือนเดิม แต่รัฐบาลจะทำทุกอย่างเพื่อให้ครอบครัวได้พบหน้ากันในช่วงคริสต์มาส” นายจอห์นสัน กล่าวระหว่างการแถลงข่าว

ขณะที่สัปดาห์ที่ผ่านมานางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีของเยอรมัน แถลงเพิ่มมาตรการล็อกดาว์นทั่วประเทศทั้งหมด 4 อาทิตย์ โดยเริ่มวันจันทร์ที่ 2 พ.ย. หลังโรคโควิด-19 ระบาดเข้าขั้นวิกฤตและมีผู้ติดเชื้อเกือบ 2 หมื่นคนต่อวัน

รัฐบาลได้สั่งปิดโรงแรม ฟิตเนส โรงภาพยนตร์ โรงละคร และคนสามารถรวมตัวกันได้ไม่เกิน 10 คน ไม่ว่าจะเป็นที่ร้านค้า หรือที่พักอาศัย อย่างไรก็ตามทางเยอรมันได้เปิดโรงพยาบาลให้กับผู้ติดเชื้อประเทศอื่น ซึ่งได้รับรักษาผู้ป่วยรายแรกจากเบลเยี่ยมเมื่อวันพฤหัส (30 ต.ค.) ที่ผ่านมา

ทางด้าน นายเอมมานูเอล มาครง นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส ก็ได้มีคำสั่งล็อกดาว์นไปทั่วประเทศรอบ 2 ตลอดเดือนพ.ย. จนถึงวันที่ 1 ธ.ค. สามารถออกจากบ้านได้แค่เฉพาะการซื้อของ เหตุผลทางการแพทย์ การออกกำลังกาย 1 ชั่วโมงต่อวัน และเคอร์ฟิวต้องอยู่แต่ในบ้านตั้งแต่ 21:00 – 06:00 น.


ถ้าประชาชนอยากออกจากบ้าน ต้องกรอก “ใบรับรอง” เพื่อเป็นพยานการออกจากบ้าน โดยฝรั่งเศสได้เริ่มเคอร์ฟิวเมื่อวันศุกร์ที่ 30 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงเย็นวันพฤหัส 1วันก่อนเริ่มมาตรการล็อกดาวน์ มีประชาชนในกรุงปารีส จำนวนมากพากันเดินทางออกนอกเมืองเพื่อหลบไปล็อกดาวน์ที่อื่น จนส่งผลให้รถติดยาวสะสมเป็นระยะทางกว่า 700 กิโลเมตรรอบกรุงปารีส