นักเศรษฐศาสตร์ “สแตนฟอร์ด” ชี้งานหาเสียงของทรัมป์กลายเป็น “ซูเปอร์ สเปรดเดอร์” ทำให้มีผู้ติดเชื้อ 3 หมื่น และตาย 700 คน
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า “บี ดักลัส เบิร์นไฮม์” ประธานนักเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด กล่าวว่า จากการวิเคราะห์สถิติผู้ติดเชื้อ จุดที่ “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐ ไปหาเสียงทั้งหมด 18 แห่ง ระหว่างวันที่ 20 มิ.ย. ถึง 22 ก.ย. 2563 ซึ่งมีการจัดงานบริเวณสถานที่ในร่มถึง 3 ครั้ง ประเมินว่าในงานหาเสียงของทรัมป์ จะเป็นจุดที่ทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มถึง 30,000 คน และมีผู้เสียชีวิตถึง 700 คน
ผู้เชี่ยวชาญทางโรคติดต่อหลายคนคาดการณ์ว่าจุดหาเสียงต่าง ๆ ของทรัมป์ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบสหรัฐในวันที่ 3 พ.ย. ได้กลายเป็นจุด “ซูเปอร์ สเปรดเดอร์” ในการแพร่เชื้อโควิด-19 อย่างไรก็ตามนักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถติดตามผลกระทบได้เนื่องจากไม่มีการติดตามผู้ติดเชื้อภายในรัฐ
ทรัมป์ได้มีการหาเสียงหลายสิบครั้งที่รัฐเพนซิลเวเนีย มินนิโซตา และวิสคอนซิน ซึ่งมีอัตราผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งทุกครั้งที่หาเสียง ทรัมป์ไม่ได้มีการเว้นระยะห่าง (Social Distancing) และมีคนจำนวนน้อยมากภายในงานที่ใส่แมสก์
รายงานดังกล่าวนี้เกิดขึ้นไม่กี่วันก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งทรัมป์ถูกวิจารณ์แง่ลบเรื่องการรับมือการระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นภายในประเทศ ซึ่งทำให้มีผู้ติดเชื้อถึง 9.4 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตถึง 2.3 แสนคน
