รัฐบาลจีนดับฝัน “แจ็ก หม่า” ส่งกฎหมายคุมยักษ์ฟินเทค

Photo by STR / AFP) / China OUT

ฝันของ “แจ็ก หม่า” เจ้าของอาลีบาบา ถูกดับลงเมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา เมื่อทางการสั่งระงับการขายหุ้นไอพีโอ “แอนต์กรุ๊ป” เพียง 2 วันก่อนถึงกำหนด หลังนักลงทุนแห่จองซื้อถล่มทลาย หวังทุบสถิติไอพีโอใหญ่ที่สุดในโลกถึง 3.97 หมื่นล้านดอลลาร์

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ก่อนหน้านี้ รัฐบาลจีนอนุญาตให้ “แอนต์กรุ๊ป” ผู้ให้บริการนวัตกรรมทางการเงิน (ฟินเทค) เจ้าของ “อาลีเพย์” เดินหน้าเข้าตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ และฮ่องกง เพราะอยากให้ฟินเทคจากแดนมังกรในเครืออาลีบาบา สู้กับคู่แข่งโดยไม่ต้องพึ่งพาสหรัฐ

แต่ทางการจีนก็มีความกังวลต่อการจัดการความเสี่ยงของแพลตฟอร์มการเงินที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งผลกระทบต่อเสถียรภาพตลาดเงิน รวมถึงผลต่อความมั่นคงของสถาบันการเงินจีน

ดังนั้น เมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา ทางการจีนได้เผยแพร่ร่างกฎหมายการเงินกำกับดูแลแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อเปิดรับฟังความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ เรียกว่าเป็นร่างกฎหมายเพื่อควบคุมการปล่อยสินเชื่อของ “ฟินเทค” โดยกำหนดให้แพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ที่ปล่อยสินเชื่อจะต้องมีเงินทุนสำรองอย่างน้อย 30% จากวงเงินที่ปล่อยกู้

ขณะที่ปัจจุบัน “แอนต์กรุ๊ป” ปล่อยสินเชื่อโดยมีทุนสำรองเพียง 2% ของสินเชื่อ จึงทำให้แอนต์กรุ๊ปเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมาย

กลยุทธ์ของแอนต์กรุ๊ป คือ ใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลเป็นสะพานเชื่อมนำเสนอบริการทางการเงินไปถึงประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทห่างไกลทั่วประเทศ จนกลายเป็น “มดยักษ์” ที่ยิ่งใหญ่กว่าธนาคาร ทั้งได้เข้าไปแย่งลูกค้าธนาคารใหญ่จีนอย่าง “ไอซีบีซี” และ “ไชน่า คอนสตรักชั่น” ซึ่งล่าสุดแอนต์กรุ๊ปได้ปล่อยสินเชื่อทั้งหมด 1.8 ล้านล้านหยวน (8.3 ล้านล้านบาท) ให้กับผู้ใช้บริการถึง 500 ล้านคน

แต่ด้วยกฎกติกาใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น ส่งผลให้ยักษ์ฟินเทคของโลกรายนี้ต้องปรับแผนธุรกิจเพื่อให้สอดคล้องกับกฎระเบียบของจีน รวมถึงการประเมินผลตอบแทนทางธุรกิจใหม่ ก่อนที่จะเดินหน้าแผนไอพีโออีกครั้ง

ผู้เชี่ยวชาญทางการเงินจีนกล่าวว่า แอนต์กรุ๊ปต้องเพิ่มหาเงินทุนถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงจะสามารถดำเนินธุรกิจปล่อยสินเชื่อต่อได้

ไฟแนนเชียล ไทมส์ รายงานว่า “วาง เวบิน” รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงการณ์ว่า การระงับไอพีโอของแอนต์กรุ๊ป เป็นเพราะต้องการรักษาความมั่นคงตลาดเงิน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้ประกอบการต่อการลงทุน ขณะที่ “สี จิ้นผิง” ประธานาธิบดีจีน เคยกล่าวไว้ว่า ความมั่นคงทางการเงินเปรียบเสมือน “ความมั่นคงแห่งชาติ”

สำหรับหน่วยงานกำกับดูแลมองว่า การเติบโตของสินเชื่อออนไลน์จะกลายเป็นที่มาของความเสี่ยงสำหรับตลาดเงินของจีน ข้อมูลธนาคารกลางจีน (PBOC) ระบุว่า สินเชื่อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์สูงถึง 1.43 ล้านล้านหยวน หรือ 2.13 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ณ 30 มิ.ย. 2020 ซึ่งเท่ากับ 22% ของสินเชื่อเพื่อการบริโภค

ขณะที่ปลายเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา “แจ็ก หม่า” ได้ออกมาวิพากษ์หน่วยงานกำกับด้านการเงินว่า เป็นตัวฉุดรั้งนวัตกรรมบริการทางการเงิน และระบุว่า การดำเนินธุรกิจของธนาคารจีนเหมือน “โรงรับจำนำ” ที่ต้องใช้ทรัพย์สินเป็นหลักประกันเพื่อปล่อยสินเชื่อ ซึ่งเป็นการปิดโอกาสผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ ทั้งวิพากษ์ว่าทางการจีนเข้ามาแทรกแซงควบคุมธุรกิจมากเกินไป

ผู้บริหารระดับสูงของธนาคารจีนกล่าวว่า รัฐบาลจีนจะเข้ามาแทรกแซงเมื่อคิดว่าไม่สามารถควบคุมธุรกิจดังกล่าวได้ ตามคติที่ว่า “ถ้าไม่เข้าใจและไม่สามารถควบคุมได้ รัฐบาลจะไม่ให้ธุรกิจขยายตัวต่อ”

นักลงทุนทั่วโลกช็อกเมื่อไอพีโอแอนต์กรุ๊ปถูกระงับ และยังไม่มีการรายงานแน่ชัดว่า แอนต์กรุ๊ปไปทางไหนต่อ “ฮาววาร์ด ยู” อาจารย์สถาบันไอเอ็มดี บิสซิเนส รายงานว่า การระงับไอพีโอนี้เป็นการส่งสัญญาณที่สำคัญของจีนว่า ไม่มีธุรกิจไหนที่ใหญ่เกินควบคุม และผลประโยชน์ของธุรกิจต้องสอดคล้องกับผลประโยชน์ของชาติ