แม้ต่างประเทศจะมองว่า “อองซาน ซูจี” เป็นผู้สนับสนุน “การฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุ” กลุ่มโรฮีนจา แต่คนในประเทศยังคงสนับสนุนเธอทำให้พรรคเอ็นแอลดีชนะเลือกตั้งครองเสียงส่วนใหญ่ในรัฐสภา
สำนักข่าวอัลจาซีร่ารายงาน เมื่อวันที่ 9 พ.ย. ที่ผ่านมา พรรคสันนิบาตชาติแห่งประชาชาติธิปไตย หรือ เอ็น แอล ดี (NLD) นำโดยนาง “อองซาน ซูจี” แถลงการณ์ชนะการเลือกตั้งภายในเมียนมาร์ เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา พร้อมคาดการณ์ว่าจะสามารถครองที่นั่งส่วนใหญ่ในรัฐสภา
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- ตรวจหวย ใบตรวจหวย ผลรางวัล สลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน 2567
- อย.เปิดชื่ออาหารเสริม พบสารอันตราย ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต เตรียมดำเนินการตามกฎหมาย
โฆษกพรรคเอ็น แอล ดี กล่าวกับแหล่งข่าวรอยเตอร์ส เมื่อวันที่ 9 พ.ย. ที่ผ่านมาว่า ทางพรรคคาดการณ์ว่าจะได้ที่นั่งในรัฐสภาเกิน 390 ที่นั่ง ซึ่งเป็นจำนวนที่ทางพรรคอองซานได้ในรัฐสภาเมื่อการเลือกตั้งปี 2015 และเกินตัวเลข 322 ที่นั่งจำเป็นสำหรับการครองรัฐสภาเมียนมาร์
การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ของเมียนมา หลังประเทศได้เปลี่ยนระบอบการปกครองเป็นประชาธิปไตยเมื่อปี 2554 นำมาสู่การเลือกตั้งเมื่อปี 2558 ซึ่ง “อองซาน ซูจี” จากพรรคสันนิบาตชาติแห่งประชาชาติธิปไตยได้ชนะการเลือกตั้งครั้งแรก หลังได้ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยภายในประเทศมาหลายสิบปี
ห้าปีที่ผ่านมานางอองซาน ในฐานะ “มนตรีแห่งรัฐ” แห่งสหภาพเมียนมา ยังคงเป็นผู้นำที่ได้รับความนิยมจากประชาชนภายในประเทศอย่างมาก จากการที่พาประเทศเข้าสู่ระบอบการปกครองประชาธิปไตย
อย่างไรก็ตาม ชัยชนะครั้งนี้ถือว่าสวนกระแสกับต่างประเทศ ที่ไมองว่า เธอเป็นผู้สนับสนุน “การฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุ” โดยเฉพาะกลุ่มโรฮีนจา ภายในประเทศ และยังไม่สามารถพัฒนาเศรษฐกิจตามที่เคยสัญญาไว้ได้