เจ้าหน้าที่ระดับสูงรัสเซียได้ร่วมการทดลองฉีดวัคซีนสปุตนิก-วีด้วย แต่ยังไม่ได้ฉีดกับปูตินเนื่องจากยังไม่มีการรับรองอย่างเป็นทางการ
สำนักข่าวเดอะ การ์เดี้ยนรายงานว่าเมื่อวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่นรัสเซีย) นาย “คิริล ดิมิเทรียฟ” ประธานกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติรัสเซีย (RDIF) กล่าวว่า วัคซีน “สปุตนิก-วี” (Sputnik-V) ของประเทศที่ทางกองทุนได้ร่วมผลิตกับศูนย์วิจัย “เกมลาย่า แนชั่นแนล” (Gamelaya National Research) มีประสิทธิภาพถึง 95% และมีประสิทธิภาพกว่าของบริษัท “แอสตราเซเนกา” (AstraZeneca)
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
อย่างไรก็ตาม ผลการทดลองนี้ยังไม่เป็นที่ยอมรับสากลและมีเพียงแค่ประเทศฮังการีที่สนใจสั่งซื้อวัคซีนนี้ เนื่องจากทางการรัสเซียรีบเปิดเผยข้อมูลวัคซีนก่อนที่ทางบริษัทจะทดลองระยะที่ 3 เสร็จ
ทางรัฐบาลรัสเซียรายงานว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพ 95% หลังจากการทดลองวัคซีน “สปุตนิก-วี” ระยะเวลา 42 วันโดยผู้ทดลองทั้งหมด 2 กลุ่ม ซึ่งมีคนที่ฉีดวัคซีน 2 ครั้ง 19,000 คนและอีกกลุ่มที่ฉีดวัคซีน 1 ครั้งทั้งหมด 21,000 คน
นอกจากนี้ นายคิริลกล่าวว่าเขาและเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นฉีดวัคซีนสปุตนิก-วีนี้เหมือนกันและไม่ได้ “รู้สึกอะไร” อย่างไรก็ตามเมื่อถามว่าได้ฉีดวัคซีนนี้ให้กับ “วลาดิมีร์ ปูติน” ประธานาธิบดีรัสเซียหรือไม่ นายคิริลกล่าวว่ายังไม่ได้ฉีดเนื่องจากประธานาธิบดีไม่สามารถฉีดวัคซีนที่ยังไม่มีการรับรองได้
“มิคาอิล มิชูทิน” นายกรัฐมนตรีรัสเซียกล่าวว่าตั้งใจผลิตวัคซีนสำหรับคนรัสเซียโดยเฉพาะ และเน้นย้ำว่าทุกคนในประเทศต้องมีสิทธ์เข้าถึงวัคซีนนี้
การแถลงการณ์ข่าวนี้ตามมาหลังจากที่บริษัทยายักษ์ใหญ่อย่าง “ไฟเซอร์ อิงค์” “โมเดอร์นา” และ “แอสตร้า เซเนก้า” ต่างรายงานถึงความคืบหน้าของวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ “ใกล้จะสำเร็จ” มากขึ้นเรื่อย ๆ
