
ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า เมื่อ 17 ต.ค. กองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย หรือ เอสดีเอฟ ซึ่งกองทัพสหรัฐอเมริกาสนับสนุนอยู่ ประกาศชัยชนะในการยึดเมืองอัรร็อกเกาะฮ์ หรือ รักคา เมืองหลวงของกองกำลังรัฐอิสลาม หรือไอเอส ได้แล้ว ด้วยการติดธงของกลุ่มที่ใจกลางเมืองเพื่อเป็นสัญลักษณ์ แต่ทางสหรัฐยังสงวนท่าทีอย่างเป็นทางการอยู่ เนื่องจากรอดูสถานการณ์ให้แน่ชัด
กองกำลังเอสดีเอฟประกาศยุติปฏิบัติการสู้รบหลัก และปรับสู่ภารกิจทำลายคุกและเก็บกู้กับระเบิดที่ไอเอสวางไว้เพื่อเตรียมฟื้นฟูเมืองต่อไป
สำหรับอัรร็อกเกาะฮ์ แม้จะมีพลเมืองน้อยกว่าเมืองโมซุลที่ไอเอสใช้เป็นฐานในอิรัก แต่เป็นสัญลักษณ์ทางอำนาจที่ไอเอสยึดได้ทั้งเมืองเป็นแห่งแรกในซีเรีย ตั้งแต่ต้นปี 2557 และใช้เป็นเมืองหลวงของไอเอส ที่ปกครองพลเรือนด้วยการเขย่าขวัญ มีทั้งการประหารกลางฝูงชน และแม้กระทั่งตัดคอ
อนาคตข้างหน้าของเมืองอัรร็อกเกาะฮ์นั้น สหรัฐและกองกำลังเอสดีเอฟเตรียมแผนที่จะให้มีสภาพลเรือนในพื้นที่มาจากการเลือกตั้งของชนอาหรับในท้องถิ่น เพราะกองกำลังเอสดีเอฟเองมีชนเผ่าเคิร์ดเป็นหลัก ไม่ได้สนใจในพื้นที่ของเมืองนี้ในระยะยาว แผนการดังกล่าวจึงนับว่ามีช่องโหว่อยู่
ส่วนไอเอส แม้จะเสียเมืองหลวงแล้ว แต่ยังคงน่ากลัวและเป็นภัยคุกคาม โดยเฉพาะกับยุโรปที่เผชิญเหตุก่อการร้ายจากฝีมือแนวร่วมไอเอสมาแล้วหลายครั้ง ทั้งการวางระเบิดและขับรถพุ่งชนคน
นักรบไอเอสน่าจะยังได้รับความช่วยเหลือจากเครือข่ายชาวบ้านที่สงสารเห็นใจ หรือเป็นแนวร่วมตามแนวแม่น้ำยูเฟรติส ในขณะที่นายอาบู บักร์ อัล แบกแดดี หัวหน้ากลุ่มไอเอสที่เพิ่งแพร่คลิปยืนยันว่ายังไม่ตาย ยังซ่อนตัวอยู่
ที่มา ข่าวสดออนไลน์