บีบีซีรายงานอ้างข้อมูลจากรัฐบาลจีนระบุว่า เศรษฐกิจจีนไตรมาส 3 เติบโต 6.8% ซึ่งเติบโตแบบชะลอตัวลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้าที่เติบโต 6.9% รวมไปถึงไตรมาสแรกของปีก็โต 6.9% ด้วย
อย่างไรก็ตาม จีดีพีไตรมาส 3 นี้ซึ่งเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ก็เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ และยังสูงกว่าเป้าหมายการเติบโตของปี 2017 ที่ตั้งไว้ 6.5%
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- พบรอยร้าวบ่อฝังกลบกากแคดเมียมของ เบาด์ แอนด์ บียอนด์
- เปิดไทม์ไลน์ลูกค้าซิตี้แบงก์ต้องรู้! ก่อนโอนย้ายบัญชีมาเป็น “ยูโอบี” 21 เม.ย.นี้
โดยประเทศจีนที่ถือเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกกำลังพยายามควบคุมหนี้และที่อยู่อาศัยที่มีสภาะฟองสบู่ แบบไม่ทำร้ายการเติบโต
ซึ่งความพยายามเหล่านี้คาดว่าจะมีผลต่อการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจในบางพื้นที่ของประเทศจีน แต่ที่เศรษฐกิจยังโตได้ก็เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของการค้าและการปล่อยเงินกู้ของธนาคาร ที่มากกว่าที่คาดไว้
“แนวนโยบายด้านการคลังที่สนับสนุนน้อยกว่า และการเติบโตของสินเชื่อที่ช้าลง น่าจะส่งผลให้การเติบโตในช่วงหลายเดือนข้างหน้าชะลอตัวลง” จูเลียน อีแวนส์-พริตชาร์ด นักเศรษฐศาสตร์ทุนจีน กล่าว
ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าวเผยแพร่ออกมาหลังเมื่อวาน (18 ต.ค.) มีการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีน เพื่อกำหนดทิศทางของประเทศต่อไป
โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวว่า จีนจะปฏิรูปทางเศรษฐกิจและการเงิน และเปิดตลาดให้กับนักลงทุนต่างชาติต่อไป
“เศรษฐกิจจีนกำลังเปลี่ยนแปลงจากยุคการเติบโตอย่างรวดเร็ว ไปสู่ยุคของการพัฒนาที่มีคุณภาพสูง” นายสีกล่าวระหว่างเปิดการประชุม
นอกจากนี้ จีนยังต้องการที่จะเลิกพึ่งพิงการเติบโตจากการส่งออกและการบริโภคภายในประเทศ
ทั้งนี้ ตั้งแต่วิกฤตการเงินโลก เศรษฐกิจจีนก็เติบโตแบบชะลอตัว จากเฉลี่ยที่ 3 ทศวรรษก่อนเติบโตปีละ 10% แต่ปีที่ผ่านมาเติบโตเพียง 6.7% เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม บางคนก็ยังมองแนวทางข้างหน้าในแง่ดี อย่างผู้ว่าการธนาคารกลางของประเทศ ที่กล่าวว่าช่วงครึ่งหลังของปีนี้เศรษฐกิจจีนน่าจะขยายตัว 7% แต่ก็เน้นย้ำว่าจำเป็นมากที่จะต้องลดความเสี่ยงจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของหนี้
สำหรับตัวเลขอื่นๆ ที่ถูกเผยแพร่ออกมาด้วย ได้แก่ ค้าปลีกเดือนกันยายนเติบโตขึ้น 10.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.ย.เติบโต 6.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นต้น