สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ภายในสหรัฐได้เลวร้ายขึ้นเรื่อย ๆ ทางบริษัททขนส่งจึงให้ความสำคัญต่อการขนส่งวัคซีนก่อน โดยคาดการณ์ว่าจะสามารถเริ่มฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค. ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐ
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่าเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐ) วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ลอตแรก ถูกขนส่งออกจากโรงงานผ่านรถบรรทุกและเครื่องบินของบริษัท “ไฟเซอร์ อิงค์” (Pfizer Inc) ที่รัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกาเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งจะเริ่มการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนทั่วไปภายในประเทศวันจันทร์ที่ 14 ธ.ค. เป็นต้นไป
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
ทางไฟเซอร์ได้รับอนุญาตการขนส่งวัคซีนหลังจากทางองค์การอาหารและยาสหรัฐ (FDA) อนุมัติการใช้งานวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ทางบริษัทได้ร่วมผลิตกับบริษัท “ไบโอเอนเทค เอสอี” (BioNTech SE) เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ที่ผ่านมา
สถานพยาบาลสหรัฐได้เตรียมที่จะฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค. เป็นต้นไป ซึ่งจะเริ่มจากการฉีดวัคซีนตามบ้านพักคนชรา และบุคลากรทางการแพทย์ก่อน โดยสหรัฐมีเป้าหมายที่จะฉีดวัคซีนให้ประชากร 20 ล้านคนก่อนสิ้นปี และ 100 ล้านคนก่อนสิ้นเดือน มี.ค. 2021
บริษัทขนส่ง “ยูพีเอส” (UPS) และ “เฟดเอกซ์” (FedEx) จัดขนส่งวัคซีนอย่างระมัดระวัง โดยมีการติดตั้งเครื่องตามตำแหน่งของวัคซีน และอุณหภูมิตู้แช่ช่วงการขนส่ง โดยจะให้ความสำคัญต่อการขนส่งวัคซีนก่อนสินค้าอื่น ๆ
“แอนดรูว์ โบยล์” ประธานบริษัทขนส่งบอยล์ หนึ่งในบริษัทขนส่งของยูพีเอสกล่าวว่าวันนี้ไม่ใช่เพียงการขนส่งสินค้าธรรมดา แต่ยังเป็นการขนส่ง “ความหวังของมนุษยชาติ”
หลังจากช่วงวันขอบคุณพระเจ้าที่ผู้คนเดินทางทั่วสหรัฐ ทำให้อัตราผู้ติดเชื้อภายในสหรัฐเกิน 200,000 คนต่อวัน ซึ่งตอนนี้มีผู้ติดเชื้อทั้งหมดถึง 16.7 ล้านคนและมีผู้เสียชีวิตถึง 300,000 คน ทั่วประเทศ