โค้กต้องการที่จะลดต้นทุนให้ได้มากที่สุด หลังโควิด-19 ทำให้ยอดขายลดลงถึง -9%
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่าบริษัท “โคคา-โคล่า” (Coca-Cola) หรือ “โค้ก” (Coke) กำลังมีแผนปรับโครงสร้างบริษัทใหม่ ลดแบรนด์ในเครือจากเดิม 430 ให้เหลือเพียง 200 แบรนด์ ลดโรงงานลงจากเดิม 17 แห่งเหลือแค่ 9 แห่ง และจะปลดพนักงานลง 2,200 ตำแหน่งทั่วโลก
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
ทางบริษัทมีรายได้ช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้อยู่ที่ 8.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ น้อยกว่าไตรมาสที่แล้ว 9% ซึ่งการปรับโครงสร้างใหม่ครั้งนี้ ส่งผลมากที่สุดกับประเทศสหรัฐ ซึ่งจะปลดพนักงานภายในประเทศ 1,200 คน โดยบ้านเกิดโค้กในเมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย จะปลดพนักงานถึง 500 คน
ก่อนหน้านี้ทางบริษัทได้พยายามลดต้นทุนของโดยการเสนอให้พนักงาน 4,000 คนออกจากงานพร้อมเงินชดเชยที่กิจการในประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดา และปวยร์โตรีโก และยังได้ยกเลิกกิจการบางส่วนที่ไม่ได้ทำกำไรไม่ว่าจะเป็น “น้ำมะพร้าวซิโค้” (Zico) “น้ำผลไม้ออดวาล่า” (Odwalla juice) หรือกิจการน้ำปั่น
ทั้งนี้ ทางบริษัทต้องการที่จะมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์หลักอย่าง “โค้ก” (Coke) และ “โค้ก ซีโร่” (Coke Zero) ซึ่งแหล่งข่าวรายงานว่าสาเหตุหลักที่ยอดขายลดลงเป็นผลมาจากการที่สถานที่ต่าง ๆ อย่างร้านอาหาร บาร์ สนามกีฬา และโรงหนัง ถูกสั่งปิดหรือลดจำนวนผู้เข้าใช้ ช่วงที่โรคโควิด-19 ระบาด ทำให้ไม่สามารถทำยอดขายตามสถานที่เหล่านี้ได้