อียูได้ทำข้อตกลงกับบริษัทไฟเซอร์ โมเดอร์นา และแอสตราเซเนกาให้จัดส่งวัคซีนทั้งหมด 2 พันล้านโดส หวังป้องกันจากโควิดสายพันธุ์ใหม่
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่าทางสหภาพยุโรป (อียู) เซ็นสัญญาซื้อวัคซีน 2 พันล้านโดสจากบริษัท “ไฟเซอร์ อิงค์” (Pfizer Inc.) “โมเดอร์นา อิงค์” (Moderna Inc.) และ “แอสตรา เซเนกา พีแอลซี” (AstraZeneca plc) โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ 450 ล้านคนทั่วภูมิภาคได้ฉีดวัคซีนก่อนสิ้นปี 2021
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
แหล่งข่าวรายงานว่า ปัจจัยที่ทำให้ต้องรีบฉีดวัคซีนเนื่องจากว่าโรคโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่เริ่มระบาดที่อังกฤษ ซึ่งมีอัตราการระบาดมากกว่าเชื้อโควิดเดิมถึง 70% โดยตอนนี้เริ่มพบผู้ติดเชื้อมนประเทศของอียูแล้ว จึงต้องรีบฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม ทางการรายงานว่ายังมีบางประเทศอย่าง ฝรั่งเศส และโปแลนด์ ที่ประชาชนกลัวการฉีดวัคซีน ซึ่ง “เอมมานูเอล มาครง” นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสโพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่าตอนนี้เรามีอาวุธใหม่สำหรับการต่อสู้โรคโควิด-19 ซึ่งก็คือวัคซีน เราทุกคนต้องเชื่อมั่นในสิ่งนี้
อิตาลีเป็นประเทศแรกในอียูที่เริ่มฉีดวัคซีน ซึ่งหลาย ๆ ประเทศในอียูอย่าง สเปน ฝรั่งเศส เยอรมัน ฮังการี่ สโลวาเกีย ได้อนุมัติการใช้งานวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ และเริ่มการฉีดวัคซีนแล้วเช่นกัน
ทางอียูจะได้รับวัคซีนทั้งหมด 12.5 ล้านโดสภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งเพียงพอสำหรับการฉีดวัคซีน 6.25 ล้านคน เนื่องจากว่าแต่ละคนต้องได้รับการฉีดวัคซีน 2 โดส