หลังจากทรัมป์ไล่ให้สภาสหรัฐกลับไปเพิ่มเงินสวัสดิการให้เป็น 2,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน สภาล่างร่วมกันลงประชามติเห็นด้วยเรียบร้อย แต่สภาสูงอาจไม่เห็นด้วยกับการขึ้นเงินสวัสดิการนี้
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐ) ว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงประชามติ 275 ต่อ 134 เปลี่ยนจำนวนเงินในสวัสดิการของแพ็คเกจมาตรการเยียวยาจากผู้ได้รับผลกระทบ จากเดิม 600 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 18,000 บาท) เพิ่มเป็น 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 60,000 บาท)
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
ก่อนหน้านี้ “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐขู่ว่าจะไม่เซ็นรับรองอนุมัติเงินแพ็คเกจนี้ โดยให้เหตุผลว่าเงินสวัสดิการ 600 ดอลลาร์สหรัฐที่จะให้กับเด็กและผู้ใหญ่ทุกคนน้อยเกินไป ควรปรับเพิ่มเป็น 2,000 ดอลลาร์ และมองว่ายังมีกองทุนบางส่วนที่ไม่ได้เหมือนที่คุยกันไว้ มองว่าเป็นการใช้เงินที่ “สูญเปล่า” โดยสั่งให้รัฐสภากลับไปปรับแก้ไขแพ็กเกจมาใหม่ อย่างไรก็ตามทรัมป์เปลี่ยนใจเซ็นสัญญาอนุมัติเงินแพ็คเกจนี้เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ที่ผ่านมา
โดยหลังจากนั้น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ (สภาล่าง) ก็ได้ทำตามคำสั่งทรัมป์ อนุมัติเงินเพิ่มให้เป็น 2,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน ซึ่งต้องรอการอนุมัติจากสมาชิกวุฒิสภา (สภาสูง) จึงจะสามารถดำเนินเรื่องต่อได้
สมาชิกทั้งสองสภาของฝั่งเดโมแครต รวมทั้งว่าที่ประธานาธิบดี “โจ ไบเดน” เห็นด้วยกับการเพิ่มวงเงินเป็น 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่วุฒิสภาสหรัฐ ซึ่งมีสมาชิกจากพรรครีพับลิกันมากกว่า ไม่ได้แสดงถึงการสนับสนุนเงินก้อนนี้ และอาจไม่อนุมัติแพ็คเกจที่เพิ่มเติมเข้ามา โดยแหล่งข่าวรายงานว่าทรัมป์อาจไม่มีอำนาจภายในพรรคของตนพอที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของสมาชิกวุฒิสภาได้
ทางสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะร่วมกันลงประชามติวันนี้ (29 ธ.ค.) เพื่อตัดสินว่าจะเพิ่มเงินสวัสดิการตามคำขอของทรัมป์หรือไม่ แต่ยังไม่มีรายละเอียดว่ามีอะไรที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมตามที่ทรัมป์ขอไว้หรือไม่
