“ไบเดน” แจง คณะรัฐมนตรีที่ตนแต่งตั้งจะมีความหลากหลายทางด้านเพศ เชื้อชาติ และอายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา
วันที่ 3 มกราคม 2564 หลังจาก “โจ ไบเดน” ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2563 ไบเดนได้เปิดเผยบุคคลที่จะแต่งตั้งเพื่อดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีตามกระทรวงต่าง ๆ ของสหรัฐพร้อมกับ “คามาล่า แฮร์ริส” ว่าที่รองประธานาธิบดีสหรัฐ
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- ออมสิน ฉลองครบวาระ 111 ปี จัดเต็ม สลากออมสินลุ้นรางวัลใหญ่ 111 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” ได้รวบรวมบุคคลที่ไบเดนแต่งตั้ง โดยบุคคลเหล่านี้ต้องได้รับการอนุมัติจากสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐ จึงจะสามารถดำรงตำแหน่งได้ โดยรายชื่อที่ไบเดนได้เสนอมีดังนี้
1. “แอนโทนี่ บลินเกน” ดำรงตำแหน่ง “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ” อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศสมัย “บารัค โอบามา” เป็นประธานาธิบดี หนึ่งในที่ปรึกษาของไบเดนด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมายาวนาน และเป็นคนใกล้ตัวที่ไว้วางใจกันมาตลอด
2. “เจเน็ต เยลเลน” ดำรงตำแหน่ง “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง” ซึ่งเจเน็ตเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้เป็นประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) และจะเป็นผู้หญิงคนแรกที่ดำรงตำแหน่งนี้
3. “ลอยด์ ออสติน” ดำรงตำแหน่ง “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม” อดีตนายทหารยศพลเอก 4 ดาว เคยดำรงตำแหน่งรองเสนาธิการกองทัพบกของสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นคนแอฟริกัน-อเมริกันคนแรกที่ได้รับตำแหน่งนี้
4. “เดป ฮาแลนด์” ดำรงตำแหน่ง “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย” สมาชิกผู้แทนราษฎรรัฐนิวเม็กซิโก ซึ่งเดปสร้างประวัติศาสตร์เป็นคนพื้นเมืองอเมริกัน (native american) คนแรกที่ได้ทำหน้าที่เป็นรัฐมนตรีกระทรวงของสหรัฐ และคนแรกที่ได้เป็นรัฐมนตรีดำรงตำแหน่งนี้
5. “ทอม วิลแซค” ดำรงตำแหน่ง “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร” ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งนี้ขณะที่ “บารัค โอบาม่า” เป็นประธานาธิบดี และเป็นรัฐมนตรีคนเดียวที่ดำรงตำแหน่งถึง 8 ปี ขณะที่โอบาม่าเป็นผู้นำสหรัฐ
6. “ฮาเวียร์ เบเซร์รา” ดำรงตำแหน่ง “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและบริการประชาชน” ซึ่งตอนนี้เป็นอัยการประจำรัฐแคลิฟอร์เนีย และ เคยดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรัฐแคลิฟอร์เนีย
7. “มาร์เซีย ฟัดจ์” ดำรงตำแหน่ง “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเคหะและพัฒนาชุมชน” สส.รัฐโอไฮโอ และอดีตประธานกลุ่มสมาชิกรัฐสภาเชื้อสายแอฟริกัน ซึ่งมาร์เซียจะเป็นผู้หญิงแอฟริกัน-อเมริกันคนแรกที่ได้รับตำแหน่งนี้
8. “พีต บุตติเจจ” ดำรงตำแหน่ง “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม” อดีตนายกเทศมนตรีเมืองเซาท์เบน รัฐอินเดียน่า และเป็นทหารผ่านศึกอยู่ 7 เดือนในอัฟกานิสถาน โดยพีตจะเป็นรัฐมนตรีกระทรวงคนแรกของสหรัฐที่เป็นเกย์อย่างเปิดเผย
9. “เจนนิเฟอร์ แกรนโฮล์ม” ดำรงตำแหน่ง “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน” อดีตผู้ว่าและอัยการประจำรัฐมิชิแกน ซึ่งเจนนิเฟอร์เป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้เป็นผู้ว่ารัฐมิชิแกนเมื่อปีพ.ศ. 2550
10. “มิเกล คาร์โดน่า” ดำรงตำแหน่ง “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ” อดีตครูใหญ่โรงเรียนที่เคยดำรงตำแหน่งคณะกรรมการการศึกษารัฐคอนเนตทิคัต
11. “เดนิส แมคโดโนว์” ดำรงตำแหน่ง “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการทหารผ่านศึก” อดีตเสนาธิการทำเนียบขาว และที่ปรึกษาด้านนโยบายระหว่างประเทศให้สมัยที่โอบาม่าหาเสียงเพื่อจะเป็นผู้นำพรรคเดโมแครต
12. “อเลฮานโดร มายอร์กาส” ดำรงตำแหน่ง “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิ” อดีตรัฐมนตรีช่วยตำแหน่งนี้สมัยที่โอบาม่าเป็นประธานาธิบดี และอัยการศาลแขวงแห่งสหรัฐอเมริกาประจำแขวงกลางแคลิฟอร์เนีย ซึ่งอเลฮานโดรจะเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายละตินคนแรกที่ดำรงตำแหน่งนี้
นอกจากนี้ไบเดนกำลังพิจารณาเสนอชื่อบุคคลที่จะเข้ารับตำแหน่งอัยการสูงสุดสหรัฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน โดยไบเดนสัญญาว่ารัฐมนตรีทั้งหมดจะมีความหลากหลายทางด้านเพศ เชื้อชาติ และอายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา