หลังจากราคาหุ้นเทสลาขึ้นอย่างต่อเนื่อง มูลค่าราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) บริษัทเทสลาตอนนี้อยู่ที่ 7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
วันที่ 8 มกราคม 2564 สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า “อีลอน มัสก์” ซีอีโอบริษัทรถยนต์พลังงานไฟฟ้า “เทสลา อิงค์” (Tesla Inc.) และบริษัทขนส่งทางอวกาศ “สเปซเอ๊กซ์” (SpaceX) ครองตำแหน่งบุคคลที่รวยที่สุดในโลก แซง “เจฟฟ์ เบโซส” ซีอีโอบริษัท “อเมซอนดอทคอม” ซึ่งได้ครองตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 2017 หลังจากราคาหุ้นเทสลาขึ้นอย่างมากเมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
“แดเนียล อิเวส” นักวิเคราะห์บริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน เวดบุช ซีเคียวริตี้ ระบุว่าสาเหตุที่ราคาหุ้นบริษัทเทสลาขึ้นเป็นผลมาจากการเลือกตั้งสหรัฐ รัฐสภาใหม่ตอนนี้ “พรรคเดโมแครต” มีเสียงข้างมากทั้งในทำเนียบขาว สภาสูง และสภาล่าง โดยเนื่องจากเป็นพรรคที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้คาดการณ์ว่าจะมีนโยบายมาตรการสนับสนุนการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อบริษัทเทสลาอย่างมาก
หลังจากมัสก์ทราบข่าวนี้ เขาได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า “แปลกจัง” (How strange) พร้อมกับระบุต่อว่า “ถึงเวลากลับไปทำงานต่อ” (Well, back to work…)
เมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา บริษัทเทสลามีมูลค่าราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) พุ่งทะยานไปถึง 7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำให้มีมูลค่ามากกว่าบริษัทรถยนต์ของโลกอย่าง “โตโยต้า มอเตอร์ส” “บมจ.ฟ็อลคส์วาเกิน” “ฮุนได มอเตอร์” “จีเอ็ม” และ “ฟอร์ด” รวมกัน
ถึงแม้จะมีการระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทำให้ต้องปิดโรงงานที่รัฐแคลิฟอร์เนียไปช่วงหนึ่ง เทสลายังสามารถทำยอดขายรถได้มากถึง 499,550 คัน เมื่อปี 2020 น้อยกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เพียง 450 คัน
ทั้งนี้ เทสลากำลังมีแผนขยายฐานการผลิต สร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มที่ชานเมืองเบอร์ลิน และรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา “บ้านใหม่” ของอีลอนมัสก์ เพื่อขยายบริษัท และแข่งขันกับบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของโลกที่กำลังหันมาผลิตและจำหน่ายรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า