‘จีน’ แบนถ่านหิน ‘ออสเตรเลีย’ เอฟเฟ็กต์อุตสาหกรรมแดนมังกร

ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและออสเตรเลียยังคงตึงเครียด หลังออสเตรเลียเรียกร้องให้หาต้นตอการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในจีน นำมาซึ่งความไม่พอใจของรัฐบาลจีนที่ใช้มาตรการแบนการนำเข้า “ถ่านหิน” จากออสเตรเลีย ท่ามกลางการจับตามองของนานาชาติว่าจีนจะจัดการความต้องการถ่านหินที่มีความสำคัญต่อภาคอุตสาหกรรมอย่างไร

เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ รายงานว่า เดือน ธ.ค. 2020 จีนนำเข้าถ่านหินประเภทให้ความร้อนจากแอฟริกาใต้อีกครั้ง นับจากปี 2014 ที่จีนแบนการนำเข้าถ่านหินจากแอฟริกาใต้ด้วยเหตุผลด้านคุณภาพ ขณะที่เดือน พ.ย. 2020 จีนได้นำเข้าถ่านหินจากโคลอมเบียในปริมาณมากอย่างที่ไม่เคยเป็น เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการขนส่งสูงเมื่อเทียบกับการนำเข้าจากประเทศผู้ส่งออกในภูมิภาคอย่างอินโดนีเซียและออสเตรเลีย

แม้ว่ารัฐบาลจีนและออสเตรเลียจะไม่ได้ประกาศใช้มาตรการตอบโต้ แต่การเพิ่มปริมาณนำเข้าถ่านหินจากประเทศอื่น ก็เป็นข้อยืนยันถึงมาตรการดังกล่าว “อาร์กัส มีเดีย” ผู้ให้บริการข้อมูลสินค้าพลังงาน รายงานว่า ขณะนี้บริษัทก่อสร้างสาธารณูปโภคและผู้ผลิตปูนซีเมนต์ของจีนสั่งซื้อถ่านหินที่ให้พลังงานความร้อนสูงจากหลายประเทศ เช่น รัสเซีย แอฟริกาใต้ และโคลอมเบีย

อาร์กัส มีเดีย ระบุว่า “ปกติถ่านหินของออสเตรเลียเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งของจีน เนื่องจากความสะดวกในการขนส่งแลปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการ แต่คำสั่งห้ามนำเข้าอย่างไม่เป็นทางการ ส่งผลให้ธุรกิจจีนต้องนำเข้าจากแหล่งอื่นซึ่งมีราคาสูงกว่าค่อนข้างมาก”

นอกจากนี้ในเดือน พ.ย. 2020 จีนทำข้อตกลงนำเข้าถ่านหินจากอินโดนีเซียมูลค่า 1,460 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 3 ปีข้างหน้า ทดแทนการนำเข้าจากออสเตรเลีย

นักวิเคราะห์ของวู้ด แมคเคนซี บริษัทที่ปรึกษาตลาดพลังงานระดับโลกชี้ว่า จีนสามารถลดการนำเข้าถ่านหินให้ความร้อนจากออสเตรเลียได้ในระยะยาว เพราะสามารถนำเข้าได้จากแหล่งอื่นและยังผลิตได้เองภายในประเทศ แต่สำหรับถ่านโค้ก ซึ่งเป็นถ่านหินคุณภาพสูงสำหรับอุตสาหกรรมถลุงเหล็ก จีนยังคงต้องพึ่งการนำเข้าจากออสเตรเลีย เนื่องจากถ่านหินจากแหล่งอื่นมีคุณภาพต่ำกว่า


ผู้จัดการฝ่ายเชื้อเพลิงเอเชียของอาร์กัส มีเดียระบุว่า การที่จีนแบนการนำเข้าถ่านหินจากออสเตรเลีย แม้ว่าจะเป็นโอกาสของประเทศผู้ส่งออกรายอื่น แต่ก็ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมของจีนที่เผชิญกับราคาถ่านหินที่สูงขึ้น และการแย่งชิงแหล่งถ่านหินทดแทน ขณะเดียวกัน ถ่านหินที่ไม่มีคุณภาพก็อาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการผลิตและการก่อสร้างสาธารณูปโภคของจีนในระยะยาว