“ไต้หวัน” ปรับ 1 ล้าน ชายฝ่าฝืนกฎกักตัว 7 ครั้ง หลังกลับจากจีน

ไต้หวันปรับหนึ่งล้านคนฝ่าฝืนกฎกักตัว
ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา (ภาพโดย Markus Winkler จาก Pixabay)

ชายชาวไต้หวันถูกปรับเงินจำนวน 1 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 1 ล้านบาท) เนื่องจากฝ่าฝืนกฎการกักตัวที่บ้านหลายครั้ง

วันที่ 27 มกราคม 2564 ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ชายที่ไม่ได้รับการเปิดเผยชื่อรายนี้ อาศัยอยู่ที่นครไถจง ทางตอนกลางของไต้หวัน เขาอยู่ระหว่างการกักตัวในที่พัก ซึ่งอยู่ภายในอาคารอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง หลังเดินทางไปจีนแผ่นดินใหญ่เพื่อติดต่อธุรกิจ โดยเขาได้ฝ่าฝืนการกักตัวในที่พักอย่างน้อย 7 ครั้ง ตามการรายงานของสื่อท้องถิ่น

รัฐบาลท้องถิ่นไถจงยืนยันว่าชายรายนี้เดินทางกลับมาจากแผ่นดินใหญ่เมื่อวันที่ 21 มกราคม ซึ่งตามกฎระเบียบของไต้หวัน เขาจะต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วัน

“ลู เชียว-เยน” นายกเทศมนตรีเมืองไถจง ประกาศว่า การกระทำของเขาถือเป็นความผิดร้ายแรง พร้อมระบุเพิ่มเติมว่า ชายคนนี้จำเป็นต้องได้รับการลงโทษอย่างรุนแรง

นอกจากการปรับเงิน ซึ่งถือเป็นจำนวนสูงที่สุดในไต้หวันแล้ว ชายคนนี้จะต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 1,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 1,000 บาท) ต่อวัน เป็นค่ากักตัวของตัวเองด้วย เนื่องจากรัฐบาลไต้หวันมีคำสั่งจ่ายเงินชดเชยให้ผู้กักตัววันละ 1,000 ดอลลาร์ไต้หวัน ซึ่งชายรายนี้จะไม่ได้รับสิทธิ์นี้อีกต่อไป

ไต้หวัน ถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยไต้หวันซึ่งมีสถานภาพเป็นเขตปกครองตนเองได้ปิดพรมแดนตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นการระบาด พร้อมทั้งเดินหน้าทดสอบหาผู้ติดเชื้อ, ติดตามผู้สัมผัส และใช้การกักตัวอย่างเข้มงวด

เมื่อเดือนธันวาคม 2563 แรงงานข้ามชาติชาวฟิลิปปินส์รายหนึ่ง ถูกปรับเงินกว่า 1 แสนบาท เนื่องจากฝ่าฝืนกฎการกักตัวในไต้หวันเป็นเวลา 8 วินาที

โดยชายฟิลลิปปินส์ ที่กำลังกักตัวในโรงแรม เดินออกมาที่โถงหน้าห้องพักในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ โดยมีกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเอาไว้ได้

การควบคุมที่เข้มงวดเหล่านี้ ทำให้เกาะซึ่งมีประชากร 23 ล้านคน มีผู้ติดเชื้อโควิดเพียง 889 ราย เสียชีวิต 7 ราย ตามข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์