“เอ็มมานูเอล มาครง” ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ยังมองว่าไม่จำเป็น ที่จะมีมาตรการล็อกดาวน์ประชากรภายในประเทศเพิ่มเติม ถึงแม้ประชากรมากถึง 75% ภายในประเทศจะไม่เห็นด้วย
วันที่ 31 มกราคม 2564 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า “เอ็มมานูเอล มาครง” ประธานาธิบดีฝรั่งเศส แสดงความมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ได้ โดยไม่เพิ่มมาตรการล็อกดาวน์ ถึงแม้จะมีการระบาดระลอก 3 ภายในประเทศก็ตาม
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “บ้านกรมดิษฐ์” บ้านสวนลอยฟ้า
ทั้งนี้ มาครงได้ประกาศไม่ให้มีผู้เดินทางมาจากประเทศนอกสหภาพยุโรป (อียู) ยกเว้นการเดินทางที่จำเป็น ขณะที่ผู้เดินทางมาจากภายในอียูต้องมีใบรับรองว่าไม่ติดโรคโควิด-19 นอกจากนี้ ห้างขนาดใหญ่จะปิดทำการ และจะเพิ่มกองกำลังตำรวจ คอยดูแลในพื้นที่สำหรับการเคอร์ฟิวภายในพื้นที่ควบคุมตั้งแต่ 6 โมงเย็นเป็นต้นไป
แต่มาครงยังไม่มีมาตรการสั่งล็อกดาวน์ในช่วงกลางวัน เพราะอยากเห็นก่อนว่ามาตรการที่มีอยู่จะสามารถชะลอการระบาดของโรคโควิด-19 ได้หรือไม่
มาครงโพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ว่า มีความเชื่อมั่นในประชาชนมากพอ และช่วงเวลาที่พวกเราอยู่ตอนนี้ยากลำบาก แต่เราสามารถทำทุกอย่างเพื่อชะลอการระบาดของโรคได้
อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศสพบผู้ติดเชื้อโควิด “สายพันธุ์ใหม่” ที่มีอัตราการระบาดรุนแรงกว่าเชื้อเดิมถึง 10% จากผู้ที่เป็นโรคโควิด-19 ทั้งหมด ซึ่งบุคลากรทางการแพทย์อาวุโส ได้แนะนำให้มีการล็อกดาวน์ช่วงกลางวันเพิ่ม ขณะเดียวกัน มีแบบสอบถามจากแหล่งข่าวซึ่งรายงานว่าประชากรเกิน 3 ใน 4 ของประเทศต้องการให้ล็อกดาวน์ช่วงกลางวันเช่นกัน
นอกจากนี้ ผลจากแบบสอบถามรายงานว่าประชาชนเริ่มมั่นใจในรัฐบาลน้อยลง ด้านการควบคุมการระบาดของโรคภายในประเทศ
ตอนนี้ฝรั่งเศสพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมดมากถึง 3.18 ล้านคน โดยมีผู้เสียชีวิตแล้ว 7.5 หมื่นคน