จีน หนุนการศึกษาให้ “เด็กผู้ชาย” เป็น “ลูกผู้ชาย” มากขึ้น

จีนพยายามปลูกฝังให้เด็กชายแมนขึ้น
ภาพโดย Sylvie DELOGE จาก Pixabay

ประกาศของกระทรวงศึกษาธิการจีนถูกพูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ เนื่องจากชี้ว่าหนุ่มชาวจีนมีความเป็นผู้หญิงมากเกินไป ซึ่งชาวเน็ตมองว่าเป็นการเหยียดเพศ 

วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 บีบีซี รายงานว่า รัฐบาลจีนส่งสัญญาณถึงความกังวลเรื่องลักษณะต้นแบบของชายชาวจีน ซึ่งไม่ใช่ความแข็งแกร่งและแข็งแรงดังเช่นวีรบุรุษของกองทัพอีกต่อไป โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงศึกษาธิการจีนได้ออกประกาศเรียกร้องให้โรงเรียนปฏิรูปการให้ความรู้เรื่องพลศึกษาและการสรรหาครู

ข้อความดังกล่าวแนะนำให้โรงเรียนรับสมัครนักกีฬาปลดเกษียณ และบุคคลที่มีพื้นฐานด้านกีฬา รวมถึงให้พัฒนาการสอนด้านกีฬาอย่างจริงจัง เช่น ฟุตบอล เพื่อปลูกฝังความเป็นชายให้นักเรียน

ประกาศนี้ถือเป็นการผลักดันอย่างเฉียบขาด ในประเทศที่สื่อไม่เผยแพร่สิ่งอื่นใด นอกเหนือจากนักแสดงที่มีภาพลักษณ์ใสสะอาดและรับผิดชอบต่อสังคม

แต่ก่อนหน้านี้มีสัญญาณบ่งชี้ว่า จะมีการเคลื่อนไหวลักษณะนี้เกิดขึ้น โดยเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว “ซี เจ๋อฟู” ผู้แทนของหน่วยงานที่ปรึกษาระดับสูงของจีน กล่าวว่า ชายหนุ่มจำนวนมากของจีนกลายเป็นคนที่อ่อนแอ ขี้อาย และทำตัวไม่ดี

เขาอ้างว่ามีกระแส “ความเป็นผู้หญิง” ในหมู่ชายหนุ่มจีน ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อความอยู่รอดและการพัฒนาประเทศจีนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เว้นแต่จะมีการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ

“ซี เจ๋อฟู” กล่าวว่า สภาพแวดล้อมภายในบ้านเป็นส่วนหนึ่งที่ควรถูกตำหนิ เนื่องจากเด็กชายชาวจีนส่วนใหญ่ถูกเลี้ยงมาโดยแม่หรือยายและย่า เขายังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ความดึงดูดใจที่เพิ่มขึ้นของดาราชายบางคน ทำให้เด็ก ๆ จำนวนมาก ไม่อยากเป็นวีรบุรุษของกองทัพอีกต่อไป

เขายังชี้อีกว่า โรงเรียนควรมีบทบาทมากขึ้นในการดูแลให้เยาวชนจีนได้รับการศึกษาที่สมดุล

สิ่งที่ผู้ชายกลัวคืออะไร?

ปฏิกิริยาของชาวจีนส่วนใหญ่ที่มีต่อประกาศดังกล่าวเป็นไปในทางลบ ชาวจีนหลายแสนคนใช้โซเชียลมีเดียเพื่อแสดงความโกรธแค้น นอกจากนี้ยังมีจำนวนมากที่มองว่าข้อความของรัฐบาลเป็นการเหยียดเพศผู้หญิง

ผู้ใช้เว่ยป๋อรายหนึ่ง กล่าวว่า “ความเป็นผู้หญิง” กลายเป็นคำที่เสื่อมเสียแล้วหรือ? ซึ่งข้อความดังกล่าวมีการกดไลก์มากกว่า 2 แสนครั้ง ขณะที่อีกคนกล่าวว่า เด็กผู้ชายก็เป็นมนุษย์เช่นกัน พวกเขามีความรู้สึก, ขี้อาย หรืออ่อนโยน เหล่านี้เป็นลักษณะของมนุษย์

“ผู้ชายจะกลัวอะไร? ถ้าจะเป็นพวกเดียวกับผู้หญิง? ผู้ใช้โซเชียลรายหนึ่งกล่าว

อีกคนหนึ่งอ้างว่า มีผู้ชายมากกว่าผู้หญิงถึง 70 ล้านคน ในประเทศนี้” ส่วนอีกคนบอกว่า ไม่มีประเทศใดในโลกที่มีอัตราส่วนทางเพศที่ผิดรูปเช่นนี้ ความเป็นชายยังไม่เพียงพออีกหรือ?

อีกคนหนึ่งกล่าวว่า ข้อเสนอเหล่านี้ไม่ได้มาจากผู้หญิง

แต่สำหรับบางสื่อ มีการรายงานถึงผลตอบรับเชิงบวก โดย หนังสือพิมพ์ “โกลบอล ไทม์ส” รายงานว่า ประกาศนี้ได้รับการสนับสนุนอยู่บ้าง

บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง “ซินหลางเว่ยป๋อ” มีความเห็นที่พูดถึงประเด็นการตำหนิดาราชาย ซึ่งส่วนใหญ่ถูกเรียกว่า “little fresh meats” หมายถึงไอคอนหนุ่มจีน ที่ถูกมองว่าสะอาดสะอ้าน ได้รับการดูแลอย่างดี และอ่อนแอ

วง “ทีเอฟบอยส์” และนักร้องหนุ่ม “ลู่ หาน” ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มนี้เช่นเดียวกับศิลปินเคป๊อบหลายคน

นอกจากนี้ ยังมีการตั้งข้อสังเกตเรื่องการผลักดันกีฬาฟุตบอลโดยเฉพาะ ทั้งที่จีนมีนักบาสเก็ตบอลชื่อดังกระฉ่อนอย่าง “เหยาหมิง”

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ เพราะก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้ชื่นชอบกีฬาฟุตบอล กล่าวว่า เขาหวังให้ประเทศจีนกลายเป็นมหาอำนาจฟุตบอลโลก ภายในปี 2593

ทว่าความพยายามซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อผงาดในวงการฟุตบอลของจีนกลับล้มเหลว อีกทั้งยังถูกเยาะเย้ยว่าความหวังนี้ไม่มีทางเป็นจริง หลังจากเมื่อ 2 ปีก่อน “มาร์เชลโล ลิปปี” ซึ่งพาอิตาลีคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2006 ได้ลาออกจากการเป็นโค้ชทีมชาติจีน

ไม่กี่เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลจีนพยายามแนะนำและส่งเสริมต้นแบบใหม่ ๆ เช่น แนะนำให้ผู้หญิงแสดงบทบาทสำคัญในฐานะผู้ทำงานแนวหน้าเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด หรือการสนับสนุนบุคคลอย่าง “โจวเฉิงหยู” ผู้ซึ่งกลายเป็นที่ฮือฮาในฐานะผู้บัญชาการด้านอวกาศวัย 24 ปี

แต่ดังที่ “สีเจ๋อฟู่” กล่าวไว้เมื่อปีที่แล้วว่า ชายหนุ่มชาวจีนให้ความสนใจกับการเป็นทหาร, ตำรวจ และนักดับเพลิง ที่มีความแข็งแกร่งและไม่หวาดหวั่น ลดลง