Fenty แบรนด์แฟชั่นหรูของ “ริฮานน่า” ต้องปิดตัว เพราะพิษโควิด

ริฮานน่า
ที่มาภาพ: Reuters

Fenty แบรนด์แฟชั่นหรูของนักร้องสาวผิวสีชาวอเมริกัน “ริฮานน่า” (Rihanna) ที่ทำร่วมกับ LVMH บริษัทแม่ที่ดูแลแบรนด์หรูหลายแบรนด์ ต้องปิดตัวลงหลังจากเปิดได้ไม่ถึง 2 ปี

เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2564 สำนักข่าวเดอะการ์เดียนรายงานว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ธุรกิจแฟชั่นหรูได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง จนทำให้แบรนด์สินค้าแฟชั่น Fenty ไปต่อไม่ได้ ต้องปิดตัวในที่สุด

“ริฮานน่า” หรือชื่อเต็ม “รอบิน ริฮานน่า เฟนตี” เปิดตัว Fenty เป็นแบรนด์สำหรับไลน์สินค้าแฟชั่นราคาแพงเมื่อปี 2019 โดยร่วมกับ LVMH บริษัทที่ดูแลกิจการแบรนด์หรูต่าง ๆ เช่น Louis Vuitton และ Christian Dior ซึ่งได้สร้างประวัติศาสตร์แบรนด์หรูที่ดำเนินการโดยผู้หญิงผิวสีแบรนด์แรก

ก่อนหน้านี้ดูเหมือน Fenty จะไปได้ดี มีสินค้าที่ได้รับความนิยมอย่าง รองเท้า กางเกงยีนส์ และแว่นตา จนได้รับรางวัล Urban Luxe ในงาน Fashion Awards ในปี 2019 แต่ในที่สุดก็ต้องมาผ่ายแพ้ให้กับพิษโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานในระบบการผลิต

บวกกับอุปสรรคการทำงานร่วมกันกับ LVMH เพราะ “ริฮานน่า” อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ไม่สามารถเดินทางเพื่อร่วมงานกับทีมแฟชั่นในปารีสได้ช่วงไวรัสระบาด รวมถึงฐานแฟนเพลงของเธอมีกำลังซื้อไม่พอจะช่วยอุดหนุนสินค้าแฟชั่นของเธอได้มากนัก เพราะเป็นสินค้าที่มีราคาสูง เช่น กางเกงยีนส์ราคาตัวละประมาณ 12,400 บาท

ทั้งนี้ ตัวแทนของ LVMH ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า การปิดตัว Fenty เป็นการหยุดชั่วคราว และเป็นการตัดสินใจร่วมกับ “ริฮานน่า” เพื่อรอให้สถานการณ์ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม LVMH จะยังคงสนับสนุนสินค้าไลน์อื่นของ “ริฮานน่า” ได้แก่ Fenty Skin ที่เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิว และเครื่องสำอาง รวมถึง Savage X Fenty ชุดชั้นใน ซึ่งทั้ง 2 แบรนด์กำลังไปได้ดี ทำรายได้ 108 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3,227 ล้านบาท) ในปี 2020

ส่วนแบรนด์อื่น ๆ ภายใต้การดูแลของ LVMH อย่างเช่น Dior และ Louis Vuitton มีแนวโน้มลดลงในช่วงโควิด-19 ระบาด โดยผลกำไรสุทธิของบริษัทลดลง 34% ในปี 2020 ตามการรายงานของเว็บไซต์ WWD