อิสราเอลเผย วัคซีนโควิด “ไฟเซอร์” ผู้ป่วยแสดงอาการของโรค ลดลง 94%

REUTERS/Dado Ruvic/Illustration/File Photo

สมาคมผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและอุปกรณ์ทางการแพทย์คลาลิท ประเทศอิสราเอล เปิดเผยรายงานว่าวัคซีนโควิดไฟเซอร์ มีประสิทธิภาพป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยแสดงอาการของโรคได้ 94%

วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงาน สมาคมผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและอุปกรณ์ทางการแพทย์คลาลิท อิสราเอล ระบุว่าวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่บริษัท “ไฟเซอร์ อิงค์” (Pfizer Inc.) และบริษัท “ไบโอเอนเทค เอสอี” (BioNTech SE) มีประสิทธิภาพป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยแสดงอาการของโรคได้ 94% จากผู้ที่ฉีดวัคซีนทั้ง 2 โดสแล้ว 600,000 คน

ทั้งนี้ ข้อมูลมาจากกลุ่มทดลอง 1.2 ล้านคน ซึ่งมีการแบ่งเป็นกลุ่มคนที่ฉีดวัคซีนแล้ว 600,000 คน และกลุ่มที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน 600,000 คน โดยนำข้อมูลของทั้ง 2 กลุ่มมาเทียบกัน

โดยจากผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนนี้ ยังมีประสิทธิภาพยับยั้งอาการป่วยขั้นรุนแรงได้ 92%

“แรน บาลิเซอร์” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายนวัตกรรม สมาคมผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและอุปกรณ์ทางการแพทย์คลาลิท ระบุว่า ข้อมูลแสดงอย่างชัดเจนว่าวัคซีนโควิดของไฟเซอร์มีประสิทธิภาพหลัง 1 อาทิตย์ที่ได้รับวัคซีนโดสที่ 2 ตามรายงานการทดลองของบริษัทเมื่อปลายปีที่แล้ว โดยยังเน้นย้ำวัคซีนจะมีประสิทธิภาพเพิ่มมากยิ่งขึ้น 2 อาทิตย์หลังการฉีดวัคซีน

นักวิจัยจากสถาบันไวซ์แมน ออฟ ไซแอนซ์ ระบุว่ามีอัตราผู้เข้ารักษาภายในโรงพยาบาล และผู้ป่วยขั้นร้ายแรงที่ลดลงในกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มประชากรที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว อย่างไรก็ดี อัตราผู้เข้ารักษาภายในโรงพยาบาล และผู้ป่วยร้ายแรง ยังคงเพิ่มมากขึ้นสำหรับกลุ่มผู้ใหญ่ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน

อิสราเอลเป็นหนึ่งในประเทศที่เริ่มกระบวนการฉีดวัคซีนอย่างรวดเร็ว โดยฉีดวัคซีนโควิดไปแล้วทั้งหมด 3.8 ล้านคน จากประชากรทั้งหมด 9.3 ล้านคนทั่วประเทศ และกำลังเป็นประเทศสำหรับการเก็บข้อมูลว่าทั้งประเทศจะมีภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd Immunity) ในระยะเวลาเท่าไร