ชาวเมียนมา “ไม่ยอมแพ้” ขอกำลังผู้ประท้วงเพิ่ม โค่น “เผด็จการ”

REUTERS/Stringer REFILE - CORRECTING LOCATION

ตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา ประชากรเมียนมาหลายหมื่นคนได้นัดรวมตัวกันชุมนุม ประท้วงการรัฐประหารของกองทัพ อย่างไรก็ดี ผู้ประท้วงเริ่มมีจำนวนน้อยลงเรื่อย ๆ ขณะที่กองทัพและตำรวจ เริ่มมีมาตรการที่เข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน

วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ผู้ต่อต้านการรัฐประหารของกองทัพเมียนมา เรียกร้องให้ประชาชนออกมาแสดงพลังชุมนุมเพิ่มมากขึ้น เพื่อต่อต้านการรัฐประหาร และพิสูจน์ว่าคำกล่าวหาว่าการเลือกตั้งเมียนมาที่ผ่านมามีการฉ้อโกงนั้นไม่เป็นจริง

โดย “ยี โท” หนึ่งในสมาชิกอาวุโส พรรคเอ็น แอล ดี ซึ่งยังไม่ถูกควบคุมตัว ระบุว่าต้องการให้ประชากรร่วมต่อสู้การรัฐประหาร ซึ่งกำลังทำลายเยาวชนและอนาคตของประเทศชาติ ขณะที่ “คิน ซาดาร์” นักกิจกรรมทางการเมืองโพสต์บนเฟซบุ๊กเชิญชวน อยากให้ประชากรหลายล้านคนมารวมตัว เพื่อโค่นอำนาจเผด็จการนี้

ตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา ประชากรเมียนมาหลายหมื่นคนได้นัดรวมตัวกันทุกวัน เพื่อประท้วงการรัฐประหาร และเรียกร้องการปล่อยตัวของ “อองซาน ซูจี” อดีตที่ปรึกษาแห่งรัฐ และประธานพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) สมาชิกภายในพรรคเอ็น แอล ดี นักกิจกรรมทางการเมือง ผู้ประท้วง และผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งถูกคุมตัวไปหลายร้อยคนแล้ว

Photo by YE AUNG THU / AFP

อย่างไรก็ดี ผู้ประท้วงเริ่มมีจำนวนน้อยลงเรื่อย ๆ ขณะที่กองทัพและตำรวจ เริ่มมีมาตรการที่เข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ อย่างการฉีดน้ำ ยิงกระสุนยาง ยิงกระสุนจริง และจับกุมผู้ประท้วง เพื่อสลายการชุมนุม

ก่อนหน้านี้ “พล.อ.มิน อ่อง ลาย” ผู้บัญชาการกองทัพเมียนมา ได้กล่าวว่าต้องรัฐประหารประเทศเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา เนื่องจากทางคณะกรรมการตรวจสอบการเลือกตั้ง ล้มเหลวในการตรวจสอบความผิดปกติในผู้ที่มีสิทธิ์เลือกตั้ง และทางพรรคการเมืองไม่ได้หาเสียงอย่างยุติธรรม ซึ่งผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 พ.ย. ปีที่แล้ว “อองซาน ซูจี” รวมทั้งสมาชิกพรรคเอ็น แอล ดี ชนะขาดลอย

ทั้งนี้ ผู้ประท้วงเริ่มตั้งข้อสงสัยเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา “พลจัตวา ซอ มิน ทุน” โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมา ระบุว่าจุดประสงค์ของกองทัพคือการจัดการเลือกตั้ง และมอบอำนาจให้กับพรรคที่ชนะ อย่างไรก็ตาม ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินภายในประเทศเป็นเวลา 1 ปี ขณะที่ “อองซาน ซูจี” ก็ถูกกล่าวโทษเพิ่มว่ามีความผิดในข้อหาที่ 2