เยอรมนี-ฝรั่งเศส-อิตาลี แห่ระงับฉีดวัคซีนโควิด “แอสตร้าเซนเนก้า”

REUTERS/Dado Ruvic/Illustration

ประเทศเยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี และสเปน ได้ระงับการฉีดวัคซีนโควิดของแอสตร้าเซนเนก้า โดยก่อนหน้านี้ประเทศเดนมาร์ก, นอร์เวย์, ไอซ์แลนด์, บัลแกเรีย, ไอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์ ได้ระงับไปแล้ว หลังมีรายงานว่า วัคซีนของบริษัททำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง

วันที่ 16 มีนาคม 2564 สำนักข่าวแชนเนล นิวส์ เอเชีย รายงานว่า ประเทศเยอรมนี, ฝรั่งเศส, สเปน และอิตาลี ระงับโครงการฉีดวัคซีนโควิดของบริษัท “แอสตร้าเซนเนก้า พีแอลซี” (AstraZeneca Plc.) เมื่อวานนี้ (15 มี.ค.) หลังมีการรายงานว่าวัคซีนทำให้มีผลข้างเคียงที่ร้ายแรง

ก่อนหน้านี้ หลาย ๆ ประเทศในยุโรป อย่าง เดนมาร์ก, นอร์เวย์, ไอซ์แลนด์, บัลแกเรีย, ไอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์ ระงับการฉีดวัคซีนโควิดของแอสตร้าเซนเนก้าชั่วคราว หลังมีการรายงานว่า มีประชาชนกลุ่มหนึ่ง เกิดอาการลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ หลังจากได้รับการฉีดวัคซีน

โดยยังมีการรายงานว่าผู้ชายชาวอิตาลีอายุ 50 ปี เสียชีวิตลง จากภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำส่วนลึก (DVT) หลังฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าไปได้ 1 โดส

“เจนส์ สพาน” รัฐมนตรีสาธารณสุขเยอรมัน ระบุว่า แม้ความเสี่ยงในการเกิด “ลิ่มเลือด” จะต่ำ แต่ไม่สามารถมองข้ามไปได้ และระงับการฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าตามคำแนะนำของ “สถาบันพอล เอห์ลิช” (Paul Ehrlich Institute) สถาบันควบคุม​การพัฒนาวัคซีนของเยอรมนี

ขณะเดียวกัน องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ไม่อยากให้ผู้คนแตกตื่น เนื่องจากยังไม่มีข้อบ่งชี้ว่า อาการเหล่านี้เป็นผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า

“เตโวโดรส อัดฮาโนม เกอเบรออีเยอซุส” ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกกล่าวว่า จะมีคณะกรรมการหารือประชุมเกี่ยวกับเรื่องวัคซีนโควิดของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าวันนี้ (16 มี.ค.)

ขณะที่องค์กรยาของสหภาพยุโรป (EMA) กำลังอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนว่าวัคซีนโควิดของแอสตร้าเซนเนก้า ทำให้เกิดอาการลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำหรือไม่

ส่วนทางบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ออกมาชี้แจงว่าวัคซีนของบริษัทปลอดภัย ไม่พบหลักฐานบ่งชี้ว่าวัคซีนจะเพิ่มอัตราความเสี่ยงของ “ภาวะลิ่มเลือด”