WHO เผยวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าจะ “ช่วยชีวิต” เรียกร้องให้กลับมาฉีด

REUTERS/Dado Ruvic/Illustration/File Photo/File Photo

“ฮานส์ คลูจ” ประธานองค์การอนามัยโลก (WHO) ยุโรป เรียกร้องให้หลายประเทศภายในยุโรปกลับมาฉีดวัคซีนของบริษัท “แอสตร้าเซนเนก้า” หลังมากถึง 13 ประเทศในยุโรป ระงับการฉีดวัคซีนโควิดของบริษัทนี้ไปก่อนชั่วคราว

วันที่ 18 มีนาคม 2564 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงาน “ฮานส์ คลูจ” ประธานองค์การอนามัยโลก (WHO) ยุโรป ระบุว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัท “แอสตร้าเซนเนก้า พีแอลซี” (AstraZeneca Plc.) จะ “ช่วยชีวิตคน” เรียกร้องให้หลายประเทศภายในยุโรปกลับมาฉีดวัคซีนของบริษัทนี้

ก่อนหน้านี้ อย่างน้อย 13 ประเทศในยุโรป ได้แก่ ฝรั่งเศส, เยอรมนี, สเปน, อิตาลี,เดนมาร์ก, นอร์เวย์, ไอซ์แลนด์, บัลแกเรีย, ไอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์ ระงับการฉีดวัคซีนโควิด “แอสตร้าเซนเนก้า” ไปก่อนชั่วคราว

หลังมีการรายงานว่า มีประชาชนกลุ่มหนึ่ง เกิดอาการลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำจากการฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า

โดยยังมีการรายงานว่าผู้ชายชาวอิตาลีอายุ 50 ปี เสียชีวิตลง จากภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำส่วนลึก (DVT) หลังฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าไปได้ 1 โดส

“เจนส์ สพาน” รัฐมนตรีสาธารณสุขเยอรมัน ระบุว่า แม้ความเสี่ยงในการเกิด “ลิ่มเลือด” จะต่ำ แต่ไม่สามารถมองข้ามไปได้ และระงับการฉีดวัคซีนของบริษัทนี้ ตามคำแนะนำของ “สถาบันพอล เอห์ลิช” สถาบันควบคุม​การพัฒนาวัคซีนของเยอรมนี

ขณะเดียวกัน องค์กรยาของสหภาพยุโรป (EMA) และทางบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าเอง ระบุว่า ยังไม่มีข้อบ่งชี้ว่า อาการเหล่านี้เป็นผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า สามารถฉีดวัคซีนนี้ต่อไปได้

โดยทางองค์กรยาของสหภาพยุโรปจะเสร็จสิ้นการทดลองวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าวันนี้ (18 มี.ค.) และแถลงการณ์ว่า วัคซีนโควิดของบริษัทนี้ ทำให้เกิดอาการลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำหรือไม่