ถึงแม้กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส จะมีการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ แต่ประธานสมาคมโรงพยาบาลฝรั่งเศสเป็นกังวลว่า หากยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังคงเพิ่มขึ้นในอัตราที่รวดเร็วอย่างนี้ต่อไป อาจต้องออกมาตรการเพิ่ม
วันที่ 23 มีนาคม 2564 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงาน “เฟรเดอริก วาลเลอทูซ์” ประธานสมาคมโรงพยาบาลฝรั่งเศสระบุว่า อัตราผู้ติดเชื้อโควิด-19 ภายในประเทศฝรั่งเศสเพิ่มขึ้นอย่าง “น่ากลัว” และอาจจะต้องมีมาตรการล็อกดาวน์เพิ่มเติม ถ้าหากสถานการณ์แย่ลงกว่านี้
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- ดัน “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” จับตาย้าย “ท่าเรือคลองเตย”
ก่อนหน้านี้ กรุงปารีส เมืองหลวงของฝรั่งเศส ได้บังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม – 19 เมษายน 2564 ซึ่งประกอบไปด้วยการปิดบริการธุรกิจที่ “ไม่สำคัญ” (non-essential business) และประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป
ทั้งนี้ สถานศึกษายังคงเปิดตามปกติ และประชาชนยังสามารถเดินทางออกมาทำกิจกรรมข้างนอกได้ อย่างการออกกำลังกาย แค่ต้องอยู่ห่างไม่เกิน 10 กิโลเมตรจากที่อยู่อาศัย
อย่างไรก็ดี วาลเลอทูซ์กล่าวว่า โรคโควิด-19 กำลังระบาดอย่างเร็วมาก ๆ และยอดผู้ติดเชื้อพุ่งพรวดขึ้นทุกวัน
โดยถ้าหากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น ระบบสาธารณสุขของประเทศอาจเข้าขั้น “สาหัส” ในอีก 3 อาทิตย์ข้างหน้า
เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2564 ฝรั่งเศสมียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมด 15,792 คน เพิ่มขึ้นจากตัวเลขเมื่ออาทิตย์ที่แล้วถึง 2 เท่า และมากที่สุดในรอบ 4 เดือน
ตอนนี้ฝรั่งเศสมียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมทั้งหมด 4.29 ล้านคน และผู้เสียชีวิต 92,621 คน
