‘ไบเดน’ จ่อลงทุนครั้งใหญ่ 4 ล้านล้าน

หลังจากสหรัฐอนุมัติร่างกฎหมาย มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจของ “โจ ไบเดน” ประธานาธิบดีสหรัฐ กำลังร่างกฎหมายมุ่งพัฒนาเศรษฐกิจฉบับใหม่ ซึ่งอาจใช้งบฯ ถึง 3-4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

นิวยอร์กไทมส์ รายงานว่า แพ็กเกจ 1.9 ล้านล้าน เป็นเพียงเงินที่เข้าไปช่วยประชาชนและธุรกิจให้อยู่รอดช่วงที่โรคโควิด-19 กำลังระบาดเท่านั้น แต่แทบจะไม่ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะยาว

โดยไบเดนก็เคยระบุไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า จะมีแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจชื่อ “บิลด์ แบ็ก เบตเทอร์ รีคัฟเวอรี่ แพลน” ตามมาหลังแพ็กเกจ 1.9 ล้านล้าน

“เซทช์ ฮานลอน” นักวิจัยอาวุโส ศูนย์ระดมความคิดอเมริกันโปรเกรส ระบุว่า แผนพัฒนาเศรษฐกิจระยะยาวของไบเดน จะแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญ และงบประมาณมหาศาลยังสะท้อนให้เห็นว่า ประเทศยังต้องการการฟื้นฟูและพัฒนาในอีกหลาย ๆ ด้าน

โดยที่ปรึกษาเศรษฐกิจของไบเดนเตรียมแบ่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกเป็น 2 ร่างกฎหมาย เพื่อยื่นให้สภาคองเกรสอนุมัติ ดังนี้

ตามเอกสารที่แหล่งข่าวได้มา แพ็กเกจแรกจะเน้นไปที่การซ่อมแซมและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ประมาณเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการปรับปรุงซ่อมแซมถนน, สะพาน, รางรถไฟ, ท่าเรือ เป็นต้น อีกส่วนคือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับ “พลังงานสะอาด” และอุตสาหกรรม “อนาคต” อย่าง การสร้างจุดชาร์จรถพลังงานไฟฟ้า (อีวี), ระบบโทรคมนาคม 5G, บริการอินเทอร์เน็ตถิ่นทุรกันดาร, การฝึกอบรมขั้นสูงให้กับแรงงานหลายล้านคน และโครงการสร้างหน่วยที่อยู่อาศัยที่ทุกคนจ่ายได้ ซึ่งใช้พลังงานสะอาดหลายล้านหลัง เป็นต้น

สำหรับอีกแพ็กเกจ แหล่งข่าวระบุว่า จะเป็นการปรับปรุง “โครงสร้างพื้นฐานของมนุษย์” ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือกับประชาชนโดยตรง ประกอบไปด้วย โครงการเรียนวิทยาลัยชุมชนฟรี, โปรแกรมช่วยเหลือการจ้างงานผู้หญิงให้สามารถทำงานและเลี้ยงลูกไปพร้อมกันได้ เป็นต้น โดยอาจมีการลดภาษีเพิ่มสำหรับครอบครัวยากจนด้วย

สำหรับแพ็กเกจ 3-4 ล้านล้านดอลลาร์ จะแตกต่างจากแพ็กเกจ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ที่ใช้เงินกู้ แต่แพ็กเกจใหม่จะเป็นการหาเงินจากการลดรายจ่ายของรัฐบาล และการเก็บภาษีคนรวยเพิ่ม ตามที่ไบเดนเคยหาเสียงไว้

ก่อนหน้านี้ ไบเดนเสนอการเพิ่มอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จากสูงสุด 37% ไปที่ 39.6% สำหรับผู้ที่มีรายได้มากกว่า 500,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี และที่ปรึกษาของไบเดนได้มีการพูดคุยถึงการปรับขึ้นอัตราภาษีนิติบุคคลจาก 21% รวมถึงกำลังคิดหาทางออกนโยบาย เพื่อบังคับให้บริษัทสหรัฐที่มีรายได้ต่างประเทศ เสียภาษีนิติบุคคลเพิ่มตามรายได้จากต่างประเทศด้วย

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวได้ตั้งข้อสังเกตว่า จะมีงบฯ เพียงพอสำหรับแพ็กเกจเหล่านี้หรือไม่ เพราะไบเดนเคยหาเสียงไว้ว่าจะไม่เพิ่มอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่มีรายได้ต่ำกว่า 400,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี โดยตอนนี้ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจยังคงยืนยันว่าจะไม่ขึ้นภาษีสำหรับบุคคลกลุ่มนี้ แต่อาจจะขึ้นภาษีสำหรับบุคคลที่มีรายได้มากกว่า 400,000 ดอลลาร์สหรัฐ


โฆษกทำเนียบขาว ระบุว่า ทีมไบเดนยังอยู่ในขั้นตอนการหารือแผนพัฒนาเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะลงทุนเพื่อสนับสนุนครอบครัวอเมริกัน และปฏิรูปข้อระบบภาษี เพื่อตอบแทนคนที่ทำงานหนัก ไม่ใช่ช่วยเหลือกลุ่มคนรวย