ไบเดน ‘เอาคืน’ สหราชอาณาจักร หลังเก็บ ‘ภาษีดิจิทัล’ ยักษ์เทค

REUTERS/Leah Millis

หลังจากบริษัทเทคโนโลยีสัญชาติสหรัฐถูกสหราชอาณาจักร (ยูเค) เรียกเก็บ “ภาษีบริการดิจิทัล” (Digital Services Tax) มาหนึ่งปี “โจ ไบเดน” ประธานาธิบดีสหรัฐ เตรียมออกมาตรการ “เอาคืน” ขู่ว่าจะขึ้นอัตราภาษีศุลกากรสินค้านำเข้ามาจากสหราชอาณาจักร หลายรายการสูงถึง 25%

ทั้งนี้ “ภาษีบริการดิจิทัล” หรือ DST ไม่ใช่ภาษีที่เก็บจากธุรกิจขายสินค้าออนไลน์ หรือภาษีธุรกิจให้บริการทางดิจิทัล แต่เป็นการเรียกเก็บภาษีธุรกิจที่สร้างรายได้จากการใช้ข้อมูลของ “ผู้ใช้บริการ” ในสหราชอาณาจักรเท่านั้น ซึ่งรัฐบาลหลายประเทศเริ่มออกกฎหมายเก็บภาษีนี้ หลังธุรกิจดังกล่าวนำข้อมูลของผู้ใช้บริการไปหาประโยชน์ในเชิงพาณิชย์เพื่อสร้างรายได้ให้แก่กิจการ

บีบีซีรายงานว่า สหราชอาณาจักรได้เริ่มเก็บภาษีบริการดิจิทัลตั้งแต่เดือนเมษายน 2020 โดยคิดอัตราภาษี 2% จากรายได้ของกิจการภายในประเทศ สำหรับธุรกิจออนไลน์ มาร์เก็ตเพลซ, โซเชียลมีเดีย และเสิร์ชเอ็นจิ้น

อย่างไรก็ดี ธุรกิจที่ถูกเรียกเก็บภาษีดังกล่าวต้องมีรายได้จากทั่วโลกมากกว่า 500 ล้านปอนด์ต่อปี และมีรายได้มากกว่าปีละ 25 ล้านปอนด์ จากผู้ใช้ภายในสหราชอาณาจักร โดยแพลตฟอร์มของสหรัฐอย่าง “เฟซบุ๊ก” “อเมซอน” และ “กูเกิล” เข้าเกณฑ์ทั้งหมดนี้ และโดนสหราชอาณาจักรเรียกเก็บภาษีบริการดิจิทัลไปแล้ว

ทั้งนี้ นโยบายขึ้นภาษีศุลกากรเพื่อ “เอาคืน” สหราชอาณาจักร จากการเก็บภาษีบริการดิจิทัล เป็นความคิดตั้งแต่สมัย “โดนัลด์ ทรัมป์” ยังคงเป็นประธานาธิบดี โดยให้เหตุผลว่า ภาษีนี้เป็นการ “กีดกัน” บริษัทสหรัฐ และทำให้ผู้ประกอบการลำบาก

โดยสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) กำลังอยู่ในขั้นตอนพิจารณาออกนโยบายขึ้นภาษีศุลกากรสินค้าจากสหราชอาณาจักร หลังการสอบสวนตามมาตรา 301 ตามกฎหมายการค้าปี 1974 ว่าด้วยการปกป้องและรักษาผลประโยชน์ทางการค้าของสหรัฐ เพื่อตอบโต้ประเทศคู่ค้าที่ปฏิบัติหรือดำเนินการทางการค้าที่ไม่ยุติธรรมต่อประเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้ สหรัฐเคยใช้มาตรการดังกล่าวตอบโต้ประเทศที่เก็บภาษีบริการดิจิทัลจากบริษัทสหรัฐ อย่าง อินเดีย ออสเตรีย และสเปน มาแล้ว

สหรัฐคาดการณ์ว่ามาตรการดังกล่าวจะเก็บภาษีได้ 325 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท) ซึ่งตัวเลขนี้จะเทียบเท่ากับที่สหราชอาณาจักรเก็บภาษีบริการดิจิทัลจากบริษัทสหรัฐไป

ขณะที่โฆษกรัฐบาลสหราชอาณาจักรกล่าวว่า การเก็บภาษีบริการดิจิทัลก็เหมือนของประเทศอื่น และเป็นการเรียกเก็บภาษียักษ์เทคตามความเหมาะสม ไม่ได้เป็นการกีดกันบริษัทสหรัฐ แต่หากสหรัฐออกนโยบายมุ่งโจมตีสหราชอาณาจักร ทางการก็เตรียมปกป้องผลประโยชน์ของอุตสาหกรรมในประเทศเช่นกัน

รายงานระบุว่า สินค้าที่จะได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราภาษีศุลกากรของสหรัฐ ได้แก่ เซรามิก, เครื่องสำอาง, เสื้อคลุม, เครื่องเล่นเกม และเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น ซึ่งสมาคมการค้าสหราชอาณาจักรที่มีสินค้าอยู่ในรายการนี้ก็กำลังเป็นกังวลอย่างมาก

เช่น กรณี “อดัม มานเซลล์” ประธานสมาคมแฟชั่นและสิ่งทอสหราชอาณาจักร (UKFT) ระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นน่าผิดหวังอย่างมาก โดยในช่วงเวลานี้ที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรกำลังอยู่ในช่วงการคุยข้อตกลงการค้าใหม่ ซึ่งทั้งสองประเทศต้องจัดการปัญหาในประเด็นนี้ให้ได้


“อุตสาหกรรมแฟชั่นเผชิญความยากลำบากจากทั้งการระบาดของโรคโควิด-19 และปัญหาความตกลงทางการค้าใหม่กับสหภาพยุโรป (อียู) ดังนั้น ถ้าหากมีการขึ้นอัตราภาษีศุลกากรจากสหรัฐอีกจะยิ่งซ้ำเติมอุตสาหกรรมในช่วงเวลาที่แย่อยู่แล้ว” มานเซลล์กล่าว