นักวิจัยเก็บข้อมูลจากผู้ป่วยกว่า 500 ราย เทียบโควิดสายพันธุ์อังกฤษกับสายพันธุ์อื่น ชี้อาจไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่คิด
วันที่ 13 เมษายน 2564 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า วารสารการแพทย์ The Lancet Infectious Diseases ได้ตีพิมพ์ผลงานวิจัยฉบับใหม่ซึ่งระบุว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษ หรือ ชื่อทางการ B.1.1.7 นั้น ไม่ได้ทำให้ผู้ป่วยมีอาการร้ายแรงกว่าไวรัสสายพันธุ์ปกติ
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
งานวิจัยดังกล่าว ได้ศึกษาผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 จำนวน 496 คน ที่รับการรักษาในโรงพยาบาลของอังกฤษช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2563 และเปรียบเทียบอาการของผู้ป่วยจากไวรัสสายพันธุ์ต่าง ๆ ทั้งสายพันธุ์อังกฤษและอื่น ๆ ซึ่งพบว่า อาการของผู้ติดเชื้อสายพันธุ์อังกฤษนั้นไม่รุนแรง หรือมีอัตราเสียชีวิตสูงกว่าผู้ติดเชื้อสายพันธุ์อื่น ๆ แต่อย่างใด
“แม้ข้อมูลนี้จะยังมีข้อจำกัดของการวิจัยในสถานการณ์จริง แต่หวังว่าจะช่วยจุดเริ่มต้นของการสร้างความมั่นใจว่า ผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษที่ได้รับการรักษาในโรงพยาบาลไม่ได้มีความเสี่ยงจะเสียชีวิตมากกว่าผู้ติดเชื้อสายพันธุ์อื่น” ทีมวิจัยกล่าวในรายงาน
ในขณะที่งานวิจัยอีกฉบับหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร The Lancet Public Health พบว่า มีแนวโน้มที่วัคซีนจะสามารถการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษได้ เนื่องจาก ไม่พบการติดเชื้อซ้ำเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับสายพันธุ์อื่น
อย่างไรก็ตาม งานวิจัยนี้ ได้ยืนยันข้อสันนิฐานเดิมที่เชื่อกันว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษ หรือ B.1.1.7 นั้นติดต่อได้ง่ายกว่าสายพันธุ์ปกติ