“โจ ไบเดน” ประธานาธิบดีสหรัฐ เซ็นรับรองคำสั่งพิเศษ ออกมาตรการคว่ำบาตรต่อประเทศรัสเซีย แม้จะเพิ่งเสนอจัดประชุมสุดยอดร่วมกับ “วลาดิเมียร์ ปูติน” ประธานาธิบดีรัสเซีย เพื่อให้ทั้ง 2 ประเทศลดความตึงเครียดลงก็ตาม
วันที่ 16 เมษายน 2564 สำนักข่าวแชนเนล นิวส์ เอเชีย รายงานว่า สหรัฐออกมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย หลังมีหลักฐานว่ารัสเซียเข้าแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อปีที่แล้ว (2020) เข้าโจมตีทางไซเบอร์ และกิจกรรมอื่น ๆ ที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงประเทศ
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
“โจ ไบเดน” ประธานาธิบดีสหรัฐได้เซ็นรับรองคำสั่งพิเศษ (executive action) จำกัดธนาคารสหรัฐในการทำการซื้อขายตราสารหนี้ของรัฐบาลรัสเซีย ขับไล่ทูต 10 คน รวมถึงคนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นสายลับออกจากประเทศ
และวางมาตรการคว่ำบาตรต่อชาวรัสเซีย 32 คน ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ไบเดนเซ็นรับรองคำสั่งพิเศษไม่กี่วันหลังจากเสนอจัดประชุมสุดยอดร่วมกับ “วลาดิเมียร์ ปูติน” ประธานาธิบดีรัสเซีย เพื่อให้ทั้ง 2 ประเทศลดความตึงเครียดลง
โดยการออกคำสั่งพิเศษนี้ ทำเนียบขาวแถลงการณ์ว่า เป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าสหรัฐจะวางมาตรการต่าง ๆ ซึ่งจะส่งผลกระทบทางการเมืองและเศรษฐกิจของรัสเซีย หากยังคง “โจมตี” ความมั่นคงระหว่างประเทศต่อไป
ขณะเดียวกัน “เครมลิน” หรือทางรัฐบาลรัสเซีย ระบุว่าการวางมาตรการคว่ำบาตรนี้ จะทำให้รัสเซียต้องออกมาตรการโต้ตอ
นอกจากนี้ ความขัดแย้งระหว่าง 2 ประเทศนี้ ยังรวมถึงความกังวลของสหรัฐและพันธมิตรยุโรป หลังเริ่มมีทหารรัสเซียจำนวนมากเข้าประจำการบริเวณชายแดนที่ติดอยู่ยูเครน
รวมทั้งการจับกุมของ “อเล็กเซย์ นาวาลนี” ศัตรูสำคัญของปูติน ซึ่งก่อนหน้านี้มีรายงานว่าถูกรัฐบาลรัสเซียวางยา