สหภาพยุโรป (อียู) ออกมาตรการคว่ำบาตรผู้บัญชาการทหารเมียนมา 10 นาย โดนอายัดสินทรัพย์ และระงับวีซ่า รวมถึงไม่อนุญาตให้นักลงทุนหรือธนาคารสามารถทำธุรกิจกับ 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ของกองทัพได้
วันที่ 20 เมษายน 2564 สำนักข่าวอัลจาซีร่า รายงานว่า สหภาพยุโรป (อียู) ออกมาตรการคว่ำบาตรผู้บัญชาการทหารเมียนมา 10 นาย และบริษัทยักษ์ใหญ่ของกองทัพ 2 บริษัท แสดงจุดยืนต่อต้านการรัฐประหารประเทศ และการใช้ความรุนแรงต่อประชาชน
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- หุ้นกู้ออกใหม่ 12 บริษัทแห่ขายเดือน เม.ย.นี้ จ่ายดอกเบี้ยสูงสุด 7.40%
อียูแถลงการณ์ว่า ได้ออกมาตรการคว่ำบาตรต่อผู้บัญชาการทหารที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบทำลายระบอบประชาธิปไตยและกฏหมายของประเทศ รวมถึงการกระทำที่ละเมิดต่อสิทธิมนุษยชน
ทั้งนี้ มาตรการคว่ำบาตรดังกล่าว ผู้บัญชาการทหารทั้งหมด 10 นายที่ทำการรัฐประหาร จะโดนอายัดสินทรัพย์ และถูกระงับวีซ่า
นอกจากนี้ อียูได้ออกมาตรการคว่ำบาตร 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ของกองทัพเมียนมา ได้แก่ บริษัท “เมียนมา อีโคโนมิก โฮลดิ้งส์ พับลิก คอมปานี ลิมิเตด” (MEHL) และบริษัท “เมียนมา อีโคโนมิก คอร์เปอเรชั่น ลิมิเตด” (MEC)
มาตรการคว่ำบาตรนี้ ไม่อนุญาตให้นักลงทุนหรือธนาคารสามารถทำธุรกิจกับทั้ง 2 บริษัทได้
โดยอียูระบุว่า กองทัพเมียนมาเป็นเจ้าของบริษัทดังกล่าว และมีรายได้หลักมาจากส่วนนี้
กลุ่มสิทธิมนุษยชน สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง (AAPP) เมียนมา รายงานว่ามีผู้เสียชีวิตตั้งแต่การรัฐประหารที่ผ่านมาอย่างน้อย 738 คน และมีผู้ถูกจับกุมมากกว่า 4,000 คน โดยยังมีประชาชนถึง 3,261 คนที่ยังคงถูกคุมตัว