ไบเดนเสนอขึ้นอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีกำไรจากการลงทุน กลุ่มคนรวยในสหรัฐ เพื่อนำงบประมาณมาพัฒนาด้านสวัสดิการเลี้ยงลูก และการศึกษาประเทศ
วันที่ 23 เมษายน 2564 สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า “โจ ไบเดน” ประธานาธิบดีสหรัฐ เสนอขึ้นอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีกำไรจากการลงทุนกับกลุ่มคนรวยในสหรัฐ เพื่อนำงบประมาณมาพัฒนาด้านสวัสดิการเลี้ยงลูก (childcare) และระบบการศึกษา
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “บ้านกรมดิษฐ์” บ้านสวนลอยฟ้า
ข้อเสนอดังกล่าว จะเพิ่มอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากสูงสุด 37% ไปที่ 39.6% สำหรับผู้ที่มีรายได้มากกว่า 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ
และเล็งเก็บอัตราภาษีกำไรจากการลงทุนเพิ่มเป็น 39.6% หรืออาจมาถึง 50% ในบางรัฐ สำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้เกิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเดิมที่เรียกเก็บในอัตรา 20%
“เจน ซากี” โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า มุมมองของไบเดนคือ เศรษฐีอเมริกัน บริษัท และธุรกิจที่ “จ่ายไว้” ควรต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายตรงนี้
รายงานข่าวระบุ งบประมาณตรงนี้จะเข้ามาใช้สำหรับโครงการ “อเมริกา แฟมิลี่ แพลน” (American Family Plan) ซึ่งไบเดนจะแถลงการณ์รายละเอียดอย่างเป็นทางการสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ ทำเนียบขาวระบุ จะไม่เพิ่มอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่มีรายได้ต่ำกว่า 400,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี