สถานทูตเผยข้อเเนะนำเที่ยว “ตุรกี” เตือนคนไทยระวังโดนหลอกลวง แอบตีสนิทก่อนขู่เอาเงิน!

3 พ.ย.2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊กทางการของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา โพสต์เเจ้งข้อแนะนำสำหรับคนไทยที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศตุรกี ระบุว่า

เนื่องด้วยช่วงที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวต่างชาติหลายรายรวมถึงไทยที่ไปท่องเที่ยวตุรกี โดยเฉพาะนครอิสตันบูลถูกหลอกลวงมากขึ้น โดยรูปแบบการหลอกลวงต้มตุ๋นจะเป็นไปในลักษณะของคนท้องถิ่นเข้ามาขอถ่ายรูป คุยเล่น ตีสนิท ต่อด้วยการชวนไปทานข้าว/เที่ยวกลางคืน โดยย่านที่เกิดเหตุมักจะเป็นย่าน Sultanahmet และ Taksim ซึ่งเป็นย่านท่องเที่ยวสำคัญ เมื่อได้เหยื่อเข้าไปนั่งในร้านก็จะสั่งอาหารและเครื่องดื่มตามปกติ

• เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
• โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
• ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “บ้านกรมดิษฐ์” บ้านสวนลอยฟ้า

แต่เมื่อเรียกเก็บเงินร้านจะส่งใบเสร็จในราคาที่สูงกว่าราคาทั่วไปหลายเท่า และจะบังคับให้จ่ายเงินตามที่ระบุในใบเสร็จ จะไม่ปล่อยออกจากร้านหากไม่จ่าย โดยอ้างว่าราคาอาหารและเครื่องดื่มนั้นมีระบุอยู่ในเมนูอยู่แล้ว หรือหลายกรณีมีการมาตีสนิทและโน้มน้าวให้เป็นเพื่อนพาไปเที่ยวสถานบันเทิงยามค่ำคืน และในที่สุดก็จะอาศัยพรรคพวกใน pub หรือ bar ดังกล่าวมาขู่บังคับให้จ่ายเงินตามใบเสร็จที่คิดราคาเกินจริงนับหลายพันดอลล่าร์สหรัฐ เป็นต้น

สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอแนะนำคนไทยที่จะเดินทางไปนครอิสตันบูล ระมัดระวัง ดังนี้

1.ไม่ควรไว้วางใจ หากคนแปลกหน้าพยายามมาตีสนิทด้วยหรือสร้างสถานการณ์ต่างๆ เพื่อให้คุ้นเคยกันและเอื้อเฟื้อจะพาไปเที่ยวชมเมือง

2. นักท่องเที่ยวควรใช้ความระมัดระวังระหว่างการเดินทางตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่ออยู่ในสถานที่ชุมชนพลุกพล่าน อาทิ สถานท่องเที่ยวสำคัญ ๆ ย่านร้านค้า ร้านอาหาร รถโดยสารสาธารณะ รถไฟ ควรระวังตัวเป็นพิเศษ

3. ไม่ควรละสายตาจากสัมภาระ ทั้งในรถไฟ รถโดยสารสาธารณะ และในโรงแรมหรือสถานที่ท่องเที่ยว มีหลายกรณีที่คนร้ายหยิบสัมภาระที่วางไว้ที่พนักเก้าอี้ตามร้านอาหาร

4. ควรแยกเก็บเงิน บัตรเครดิต และเอกสารสำคัญๆ ไว้คนละที่ โดยกระเป๋าสตางค์ที่จะใช้จ่ายเป็นประจำควรมีเงินสดติดเพียงแต่จำนวนน้อย และควรแยกหนังสือเดินทาง และ/หรือใบตรวจลงตราเก็บไว้ที่โรงแรม (และนำสำเนาเอกสารติดตัวระหว่างเดินทาง)

5. พยายาม ดูแลหนังสือเดินทางของตัวเองให้ดีที่สุด เพราะถ้าหากทำหนังสือเดินทางสูญหายในตุรกี จะต้องเดินทางไปออกเอกสารใหม่เพื่อเดินกลับไทยที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ที่กรุงอังการา เท่านั้น ซึ่งอาจจะกระทบกำหนดการท่องเที่ยวได้ถึง 2 วัน และเอกสารดังกล่าวสามารถใช้เพื่อเดินทางกลับไทยได้เท่านั้น

6. ควรแจ้งให้ญาติพี่น้องที่ประเทศไทยทราบเกี่ยวกับการเดินทางมาท่องเที่ยว รวมทั้งควรมีหมายเลขโทรศัพท์ อีเมล์ และเลขที่บัตรเครดิตของผู้ที่ไว้ใจติดตัวไว้ เพื่อในกรณีฉุกเฉิน จะได้สามารถใช้ข้อมูลดังกล่าวดำเนินการและชำระค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับประเทศไทยได้

7. การเรียกใช้ Taxi สีเหลือง โดยเฉพาะในนครอิสตันบูล ขอให้ผู้เรียกมั่นตรวจสอบ meter โดยเฉพาะคนที่คนขับรถกดตอนถึงว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลง และแสดงจำนวนเงินที่จ่ายให้คนขับรถเห็นก่อนส่งเงินให้คนขับรถทุกครั้ง

8. หากประสพปัญหาระหว่างที่อยู่ในประเทศตุรกีสามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ที่หมายเลข +90 312 437 4318 (วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 09.00-17.00) หากเป็นกรณีฉุกเฉินติดต่อหมายเลข +90 533 641 5698 (ติดต่อได้ตลอด 24 ชม.)

ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอเรียนเพิ่มเติมว่าโดยพื้นฐานแล้ว คนตุรกีมีจิตใจดี ชอบช่วยเหลือ และต้อนรับนักท่องเที่ยว อย่างไรก็ดี ก็มีมิจฉาชีพจำนวนหนึ่งคาดว่าจะเป็นคนต่างชาติหรือผู้อพยพที่เข้ามาอาศัยอยู่มากในตุรกี โดยเฉพาะในนครอิสตันบูล ที่แอบแฝงหาประโยชน์จากความมีน้ำใจของคนตุรกีตรงนี้ หลอกลวงนักท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา