หวั่น ‘วิกฤตโควิด’ อินเดีย ฟาดหางอุตฯสำคัญทั่วโลก

ชีพจรเศรษฐกิจโลก

นงนุช สิงหเดชะ

สถานการณ์วิกฤตของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่อินเดีย ซึ่งมีจำนวนผู้ติดเชื้อหลายแสนคนต่อวัน และเสียชีวิตราว 4,000 คนต่อวัน กลายเป็นความกังวลใหญ่ของโลกในขณะนี้ เพราะไม่เพียงอินเดียจะมีประชากรมากเป็นอันดับสองของโลกรองจากจีน แต่บุคลากรอินเดียยังเกี่ยวข้องและมีบทบาทอยู่ในหลายอุตสาหกรรมสำคัญของโลก ดังนั้นบรรดาอุตสาหกรรมต่าง ๆ จึงเฝ้ามองอินเดียด้วยความกังวล เพราะหากสถานการณ์แย่ลงไปกว่านี้ ทุกอย่างตั้งแต่อุตสาหกรรมเสื้อผ้า ยา บริการทางการเงิน ธุรกิจชิปปิ้ง จะได้รับผลกระทบแน่นอน

ประมาณ 80% ของการค้าสินค้าโลก ถูกขนส่งทางเรือ และพนักงานเรือจำนวนมากเป็นชาวอินเดีย ซึ่งตามข้อมูลของ “กาย แพลตเท็น” เลขาธิการสภาการขนส่งทางเรือระหว่างประเทศ ระบุว่า ประเมินว่าปัจจุบันพนักงานสายการเดินเรือทั่วโลกมีอยู่ประมาณ 1.7 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นชาวอินเดียมากกว่า 2 แสนคน ซึ่งส่วนใหญ่มีตำแหน่งเป็นเจ้าพนักงานและอยู่ในบทบาทที่ต้องใช้ทักษะสำคัญ ดังนั้นจึงได้แต่หวังว่าอินเดียจะสามารถแก้ปัญหาการแพร่ระบาดได้ ไม่เช่นนั้นจะนำไปสู่การขาดแคลนพนักงานเรือ จนอาจทำให้ห่วงโซ่อุปทานโลกชะงักงัน

ขณะที่หลายประเทศสั่งแบนเที่ยวบินจากอินเดีย ก็ทำให้เป็นไปไม่ได้ที่จะนำคนงานอินเดียไปยังท่าเรือทั่วโลกและสับเปลี่ยนพนักงาน ประเด็นนี้ทำให้บริษัทขนส่งสินค้าทางเรือรายใหญ่สุดของโลกอย่าง “เมิรสก์” ซึ่งมีพนักงานเป็นชาวอินเดียถึง 30% แสดงความกังวล พร้อมหวังว่าประเทศต่าง ๆ จะแยกแยะระหว่างนักเดินทางทางเรือธรรมดากับพนักงานเรือ ไม่เช่นนั้นจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อการไหลเวียนของสินค้าทั่วโลก อีกทั้งจะก่อให้เกิดวิกฤตด้านมนุษยธรรม เพราะพนักงานชาวอินเดียไม่สามารถออกจากเรือและกลับบ้านได้

ปัจจุบัน บางประเทศ เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สิงคโปร์ ฮ่องกง จีนแผ่นดินใหญ่ ได้ออกมาตรการกักเรือที่เดินทางมาจากท่าเรืออินเดียอย่างเข้มงวด ทำให้การไหลเวียนเข้าออกของเรือมีความล่าช้า ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเห็นว่าการฉีดวัคซีนให้กับพนักงานเรือน่าจะเป็นทางออกหนึ่ง

นอกจากธุรกิจชิปปิ้งจะได้รับผลกระทบแล้ว วิกฤตโควิดในอินเดีย ยังกระทบต่ออุปทานด้านวัคซีนและยาต่าง ๆ ด้วย เพราะปัจจุบันอินเดียเป็นผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่สุดของโลก โดยวัคซีนทุกอย่างที่จำหน่ายทั่วโลกในปัจจุบัน 60% ผลิตในอินเดีย โดยปีที่แล้วอินเดียตกลงจะผลิตวัคซีนโควิด-19 จำนวน 200 ล้านโดสป้อนให้กับ 92 ประเทศ แต่ในเมื่อสถานการณ์โควิดในประเทศวิกฤต ทำให้อินเดียต้องหันมามุ่งเน้นฉีดวัคซีนให้กับคนในประเทศแทน ทำให้ส่งออกวัคซีนได้น้อยลงหรือระงับส่งออก

ไม่เพียงเท่านั้น หากอินเดียไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยาทั่วโลกด้วย เพราะอินเดียเป็นผู้ผลิตยาสามัญรายใหญ่สุดของโลกในราคาถูก จะเห็นว่าในสหรัฐอเมริกา ยาที่แพทย์สั่งจ่ายส่วนใหญ่ 90% เป็นยาสามัญ ซึ่ง 1 ในทุก 3 เม็ดที่ชาวอเมริกันบริโภค ผลิตในอินเดีย

ในด้านอุตสาหกรรมเสื้อผ้า อินเดียถือเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกรายใหญ่ของโลก กำลังเผชิญปัญหาขาดแคลนคนงานอย่างหนัก เช่นกรณีของ “เอ็นจี แอปพาเรลส์” บริษัทผลิตเสื้อผ้ารายใหญ่ในรัฐปันจาบ ซึ่งผลิตให้กับ “นิว บาลานซ์” และ “นอร์ดสตรอม” ระบุว่า นับตั้งแต่การระบาดรอบล่าสุด พนักงานเกือบ 50% ได้ออกจากบริษัทไป เช่นเดียวกับบริษัทผลิตเสื้อผ้ารายใหญ่อื่น ๆ ในนิวเดลีและบังคาลอร์ พนักงานก็หายไป ไม่มาทำงานราว 50%

ธุรกิจบริการการเงิน เป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบ เพราะอินเดียเป็นแหล่งเอาต์ซอร์ซใหญ่สำหรับบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลก เนื่องจากมีจุดเด่นที่พนักงานมีทักษะภาษาและความรู้แต่ค่าแรงถูก แต่เมื่อเกิดวิกฤตการระบาดรอบนี้ พนักงานชาวอินเดียที่เป็นเอาต์ซอร์ซเหล่านี้ไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ เพราะบางคนติดเชื้อหรือไม่ก็มีภาระต้องดูแลญาติหรือคนในครอบครัวที่ติดเชื้อ ทำให้ธนาคารบิ๊ก ๆ หลายแห่ง เช่น โกลด์แมน แซกส์, เวลส์ ฟาร์โก, บาร์เคลย์ ต้องเปลี่ยนไปใช้เอาต์ซอร์ซในประเทศอื่นแทน