‘โควิด-ดิจิทัล’ เขย่าภาคการเงิน พนักงานแบงก์สหรัฐลด 2 แสนคน

พนักงานแบงก์ สหรัฐ

เทรนด์ดิจิทัลดิสรัปชั่นส่งผลให้บริการทางการเงินอยู่ในรูปแบบดิจิทัลมากยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังส่งผลให้ผู้คนคุ้นเคยกับการทำธุรกรรมในรูปแบบออนไลน์มากขึ้น ปัจจัยเหล่านี้อาจทำให้ตำแหน่งงานในภาคธนาคารในสหรัฐอเมริกาอาจลดจำนวนลงถึง 200,000 ราย ใน 10 ปีข้างหน้า

ไฟแนนเชียล ไทมส์ รายงานว่า “ไมค์ มาโย” หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ “เวลส์ ฟาร์โก” ธนาคารยักษ์ใหญ่อันดับ 4 ของสหรัฐระบุว่า พฤติกรรมของผู้ใช้บริการธนาคารที่เปลี่ยนไปในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลกจากภาวะโรคระบาด กำลังส่งผลให้ธนาคารหลายแห่งในสหรัฐต้องปรับเปลี่ยนการให้บริการและตัดลดงบประมาณ

จากการประมาณการเชิงสถิติของมาโยพบว่า การจ้างงานในตำแหน่งพนักงานธนาคารในสหรัฐแทบจะไม่เพิ่มขึ้นจากจำนวน 2 ล้านคน ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าการทำธุรกรรมทางการเงินจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทางการเงิน (ฟินเทค) ไม่ว่าจะเป็นการใช้ระบบคลาวด์และปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ทำให้ผู้คนหันไปใช้บริการธนาคารผ่านระบบดิจิทัล ขณะที่การใช้บริการจากพนักงานประจำสาขาลดลง

นอกจากนี้ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังส่งผลให้หลายธนาคารเริ่มปรับแผนธุรกิจ เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไร ซึ่งอาจส่งผลให้ต้องมีการปรับลดจำนวนพนักงาน ซึ่งมาโยคาดว่า ภายใน 10 ปีข้างหน้า ตำแหน่งงานของธนาคารในสหรัฐอาจหดตัวลงถึง 10% หรือ 200,000 คน ซึ่งตัวเลขดังกล่าวยังสอดคล้องกับประมาณการของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่คาดว่า จำนวนพนักงานธนาคารในสหรัฐอาจลดลงมากถึง 15% ภายใน 10 ปี

“นี่จะเป็นการลดจำนวนพนักงานธนาคารครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์” มาโยกล่าว โดยตำแหน่งงานที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ พนักงานประจำสาขาและพนักงานคอลเซ็นเตอร์ เนื่องจากปริมาณการใช้บริการจากลูกค้าลดลงอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา

ยิ่งไปกว่านั้น การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังส่งผลให้ธนาคารในสหรัฐปิดบริการหลายสาขา และจนถึงขณะนี้สาขาธนาคารจำนวนมากยังคงไม่กลับมาเปิดให้บริการ ขณะที่บางสาขาที่กลับมาเปิดบริการก็มีการลดจำนวนพนักงานลงอย่างเห็นได้ชัด และยังเน้นไปที่บริการให้คำแนะนำปรึกษาแก่ลูกค้าเป็นหลัก ส่วนการทำธุรกรรมส่วนใหญ่ปรับเป็นระบบดิจิทัล

นอกจากนี้ ความก้าวหน้าของฟินเทคยังส่งผลให้มีผู้ให้บริการทางการเงินนอกภาคธนาคารมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ให้บริการรายใหญ่ของสหรัฐอย่าง “เพย์พาล” และ “อเมซอน” ที่เข้ามาแข่งดึงส่วนแบ่งลูกค้าจากภาคธนาคาร ด้วยบริการชำระเงินและการให้สินเชื่อที่สะดวกรวดเร็วกว่า เนื่องจากไม่ต้องอยู่ภายใต้กฎและข้อบังคับของภาคธนาคาร ทำให้บริการทางการเงินของธนาคารสหรัฐในปัจจุบันมีส่วนแบ่งลดลงมาอยู่ที่ราว 1 ใน 3 ของตลาดการเงินทั้งหมด

รายงานสถานการณ์ด้านแรงงานของสหรัฐล่าสุดยังแสดงให้เห็นว่า อัตราการจ้างงานยังคงไม่ฟื้นตัว โดยมีการจ้างงานในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นในระดับต่ำเพียง 266,000 ตำแหน่ง เป็นผลมาจากแรงงานจำนวนมากยังไม่กลับสู่ตำแหน่งงานด้วยปัจจัยต่าง ๆ ซึ่งอัตราการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นอย่างล่าช้านี้ ยังจะส่งผลให้บริษัทเอกชนหลายแห่งรวมถึงภาคการธนาคารปรับตัวไปใช้เทคโนโลยีมากขึ้น จนกระทั่งไม่มีความจำเป็นต้องใช้พนักงานจำนวนมากอีกต่อไป