แบงก์ชาติอังกฤษ โจมตีบิตคอยน์ พร้อมอวด “บริตคอยน์” ของตัวเอง

AFP PHOTO / Bank of England"

ผู้อำนวยการด้านฟินเทค ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ โจมตีบิตคอยน์ ว่าใช้พลังงานอย่างไม่มีประสิทธิภาพ พร้อมอวด “บริตคอยน์” ว่าจะมีเทคโนโลยี ที่ดีกว่าบิตคอยน์หลายหมื่นเท่า

วันที่ 18 มิถุนายน 2564 สำนักข่าวอาร์ทีรายงานว่า “ทอม มัททอน” ผู้อำนวยการทางด้านฟินเทค ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ (Bank of England – BOE) กล่าวว่า เทคโนโลยีเบื้องหลัง “ซีบีดีซี” (Central Bank Digital Currency หรือ CBDC) หรือสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง ซึ่งของอังกฤษจะเรียกกันว่า “บริตคอยน์” (Britcoin) จะดีกว่าในด้านการทำธุรกรรม เมื่อเทียบกับบิตคอยน์หลายหมื่นเท่า

ขณะเดียวกัน มัททอนยังกล่าวว่า การใช้พลังงานที่ไม่มีประสิทธิภาพของบิตคอยน์ ทำให้แทบจะเทียบกับเทคโนโลยี ที่ทางธนาคารกลางอังกฤษ น่าจะใช้กับซีบีดีซีของประเทศตนเองไม่ได้เลย รวมถึงระบุด้วยว่า ทางการจะพัฒนาระบบพลังงานของซีบีดีซี เพื่อจะได้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

REUTERS/Dado Ruvic/Illustration

ตอนนี้ธนาคารกลางทั่วโลก กำลังให้ความสำคัญกับการพัฒนา “ซีบีดีซี” หรือสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง โดยจะมีความแตกต่างกับคริปโทเคอร์เรนซีตรงที่ ธนาคารกลางจะเป็นศูนย์กลางควบคุมระบบการเงินทั้งหมด และค่าเงินจะขึ้นหรือลงตามสกุลเงินเหมือนเงินสด รวมทั้งซัพพลายเงินไม่จำกัดตามนโยบายของธนาคารกลางแต่ละประเทศ และที่สำคัญคือชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย

โดยสาเหตุหลักที่หน่วยงานรัฐหลายประเทศเริ่มพัฒนาซีบีดีซีของตัวเอง เนื่องจากเทรนด์ของคริปโทเคอร์เรนซีที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว กำลังเป็นภัยต่อระบบการเงิน “ดั้งเดิม” อย่างมาก และทำให้ธนาคารกลาง รวมทั้งหน่วยกำกับดูแลทางการเงิน ติดตามการทำธุรกรรมการเงินได้ยากขึ้น ซึ่งอาจลดทอนประสิทธิภาพในการดำเนินนโยบายการเงิน รวมถึงเสถียรภาพระบบการเงินของประเทศได้

นอกจากนี้ อาจเข้าไปขัดขวางการหมุนเวียนของเงินตราของประเทศนั้น ๆ หรือทำให้ระบบการฝากเงินเข้าธนาคารเข้าสู่วิกฤต หมายความว่า ผู้คนอาจหันไปถือคริปโทฯแทน เพราะเป็นระบบการเงินทางเลือก โดยซีบีดีซี จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนระบบการเงินของประเทศ เนื่องจากซีบีดีซีสามารถทำการโอนเงินระหว่างธนาคารพาณิชย์ หรือตัวกลางอื่น ๆ ได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียม