องค์การอนามัยโลก ออกมาเตือนว่า แม้จะฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว แต่ยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ท่ามกลางการระบาดของสายพันธุ์เดลต้า
วันที่ 28 มิถุนายน 2564 สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกมาเตือนให้ประชาชนที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบโดสแล้ว ยังคงปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค อย่างเช่นการสวมแมสก์ และเว้นระยะห่างอย่างเคร่งครัด ขณะที่โควิดสายพันธุ์เดลต้า หรือสายพันธุ์ที่ถูกค้นพบครั้งแรกที่อินเดีย กำลังแพร่ระบาดทั่วโลกอย่างรวดเร็ว
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- เปิดไทม์ไลน์ลูกค้าซิตี้แบงก์ต้องรู้! ก่อนโอนย้ายบัญชีมาเป็น “ยูโอบี” 21 เม.ย.นี้
- ออมสิน เปิดให้กู้สินเชื่อรีไฟแนนซ์ ลดดอกเบี้ย 4 กลุ่ม เช็กเลย !
“ดร.มาเรียนเจลา ซิเมา” ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ องค์การอนามัยโลกกล่าวว่า ผู้คนที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว ยังคงต้องปกป้องตัวเองอยู่ และทำตามมาตรการป้องกันโรค อย่างการล้างมือ และหลีกเลี่ยงการรวมตัวกันเป็นหมู่มาก เนื่องจากแค่วัคซีนอย่างเดียว จะไม่สามารถหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อได้
นอกจากนี้ยังระบุว่าโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้ามีความอันตรายกว่า เนื่องจากมีอัตราการแพร่ระบาดระหว่างบุคคลที่รุนแรงกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ โดยรายงานการทดลองจากอังกฤษระบุว่า อัตราการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลต้า รุนแรงกว่าสายพันธุ์อัลฟ่า หรือสายพันธุ์ที่ถูกค้นพบครั้งแรกที่อังกฤษถึง 60%
ก่อนหน้านี้ องค์การอนามัยโลกได้ระบุว่า โควิดสายพันธุ์เดลต้า จะกลายเป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดไปทั่วโลก โดยตอนนี้แพร่ระบาดไปยัง 92 ประเทศแล้ว รวมทั้งยังระบุด้วยว่า เป็นสายพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุด ตั้งแต่โรคเริ่มระบาดเมื่อปีที่ผ่านมา และจะมีผลกระทบต่อประชากรกลุ่มเสี่ยงที่สุด โดยเฉพาะในประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำ
