วัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส จากสหรัฐถึงไทย พรุ่งนี้ (30 ก.ค.)

ไฟเซอร์
REUTERS/Dado Ruvic/Illustration/File Photo/File Photo

กระทรวงการต่างประเทศ เผยสหรัฐแพ็กวัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส ขึ้นเครื่องแล้ว ส่งถึงไทย พรุ่งนี้เช้า (30 ก.ค.)

วันที่ 29 กรกฎาคม 2564 นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวประจำสัปดาห์ถึงความคืบหน้าการจัดส่งวัคซีนไฟเซอร์ จากสหรัฐอเมริกาให้กับประเทศไทยจำนวน 1.54 ล้านโดส โดยมีการขนส่งออกจากสหรัฐแล้วเมื่อวานนี้ (28 ก.ค.) และมีกำหนดถึงไทยในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ (30 ก.ค.)

แผนกระจายวัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส

จากนั้นกระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการจัดสรรไปยังกลุ่มเป้าหมายเป็นไปตามมติที่ประชุมคณะทำงานด้านบริหารจัดการการให้บริการวัคซีนป้องกันโควิด-19 เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2564 ดังนี้

  1. บุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับภารกิจดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วประเทศ (เข็ม 3 กระตุ้นภูมิคุ้มกัน) จำนวน 700,000 โดส
  2. ผู้มีภาวะเสี่ยงสูงต่อการเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 ที่มีสัญชาติไทย จำนวน 645,000 โดส ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค อายุ 12 ปีขึ้นไป และหญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป
  3. ชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย เน้นผู้สูงอายุ และโรคเรื้อรัง หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป และผู้เดินทางไปต่างประเทศ ที่จำเป็นต้องรับวัคซีนไฟเซอร์ เช่น นักการทูต นักศึกษา จำนวน 150,000 โดส
  4. ทำการศึกษาวิจัย (ได้รับการอนุมัติโดยคณะกรรมการวิจัยจริยธรรม) จำนวน 5,000 โดส
  5. สำรองส่วนกลางสำหรับตอบโต้การระบาดของเชื้อกลายพันธุ์ จำนวน 40,000 โดส

สหรัฐฯ บริจาคไฟเซอร์ให้ไทย รวม 2.5 ล้านโดส

โฆษกฯ เผยอีกว่า เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2564 พันโทหญิงลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ วุฒิสมาชิกสหรัฐ เชื้อสายไทย เปิดเผยผ่านงานเสวนาออนไลน์ภายใต้หัวข้อ “U.S. and Thailand Perspectives on Geostrategic Landscape and Regional Architecture” จัดโดยสถาบัน East-West Center ในกรุงวอชิงตันและสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน ว่า มีเป้าหมายที่จะบริจาควัคซีนโควิด-19 ให้กับไทย รวม 2.5 ล้านโดส โดยยังไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้สถานเอกอัครทูต ณ กรุงวอชิงตัน อยู่ระหว่างการติดตามพัฒนาการเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด

ยังไม่บริจาค-ขายต่อวัคซีนจากสต๊อกคงเหลือ

สำหรับกรณีที่มีข่าวระบุถึงสต๊อกวัคซีนคงเหลือของสหรัฐ ที่ไทยอาจจะเจรจาขอเพิ่มเติมได้นั้น สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ได้ตรวจสอบข้อมูลกับกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ และทำเนียบขาว โดยได้รับแจ้งว่า วัคซีนส่วนเกินที่อยู่ในสต๊อกของมลรัฐต่าง ๆ ยังไม่มีมาตรการบริจาค หรือขายต่อให้กับประเทศอื่น

อย่างไรก็ตาม โฆษกเผยว่า สถานเอกอัครราชทูต ก็ยังคงพยายามประสานกับบุคคลต่าง ๆ เพื่อย้ำสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทย และขอสนับสนุนการส่งมอบวัคซีน ที่หน่วยราชการไทยได้สั่งซื้อจากบริษัทต่าง ๆ โดยเร็ว รวมทั้งอยู่ระหว่างการติดต่อกับทำเนียบขาว และกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ประสานงานกับมิตรประเทศ ตลอดจนประธานสมาคม ชุมชนไทย ในสหรัฐ ที่คอยผลักให้ไทยให้เข้าถึงวัคซีนที่สหรัฐไม่ได้ใช้แล้ว