“อู่ฮั่น” พบผู้ป่วยโควิดครั้งแรกในรอบปี รับเชื้อจากกลุ่มนักท่องเที่ยว

FILE PHOTO : Hector RETAMAL / AFP

จีนพบผู้ป่วยโควิด-19 ติดเชื้อครั้งแรกในเมืองอู่ฮั่นในรอบกว่า 1 ปี จำนวน 7 ราย เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวจากมณฑลเจียงซู

วันที่ 3 สิงหาคม 2564 สำนักข่าวซินหัว สื่อทางการของจีน รายงานว่า สำนักงานใหญ่ด้านการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในมณฑลหูเป่ย์ทางตอนกลางของจีน รายงานการตรวจพบประชาชนในเมืองอู่ฮั่น มีผลการตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวก จำนวน 7 ราย

ทั้งนี้ ผู้ป่วยทั้ง 7 รายนี้ เป็นแรงงานต่างถิ่นที่ทำงานในเขตพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีอู่ฮั่น ผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นชายแซ่ถัง เขาติดเชื้อมาจากการอยู่ใกล้ชิดกับกลุ่มผู้ติดเชื้อจากมณฑลเจียงซู ที่เดินทางมายังสถานีรถไฟมณฑลหูเป่ย์ โดยชายแซ่ถังเปิดเผยว่า เขาเคยยืนรอรถไฟที่สถานีรถไฟเมืองจิงโจว ในมณฑลหูเป่ย์ ซึ่งขณะนั้นมีกลุ่มนักท่องเที่ยวจากมณฑลเจียงซู กำลังยืนรอรถไฟอยู่เช่นกัน โดยทราบภายหลังว่า สมาชิกของกลุ่มนักท่องเที่ยวนี้มีผลตรวจโรคเป็นบวก

ผู้ป่วยทั้ง 7 รายเป็นแรงงานต่างถิ่นที่ทำงานในเขตพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีอู่ฮั่น คนงานรายหนึ่งแซ่ถัง เผยว่าเคยรอรถไฟที่สถานีรถไฟเมืองจิงโจว มณฑลหูเป่ย์ ซึ่งขณะนั้นมีกลุ่มนักท่องเที่ยวจากมณฑลเจียงซูกำลังรอรถไฟอยู่เช่นกัน

สถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่เชื้อกลายพันธุ์ สายพันธุ์เดลต้า หวนกลับมาระบาดอย่างรวดเร็วในจีน เริ่มตั้งแต่เมืองหนานจิง หรือ นานกิง มณฑลเจียงซู ภาคตะวันออกของจีน มีผูัติดเชื้อมากเกิน 300 รายภายในเวลา 10 วัน อีกทั้งลามไปแล้ว 15 มณฑล ในจำนวนนี้ 12 มณฑลยืนยันว่าต้นตอมาจากเมืองหนานจิง นอกจากนี้ยังลามไปกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงด้วย

ล่าสุด ทุกสถานที่ท่องเที่ยวในจางเจี่ยเจี้ยปิดหมด นักท่องเที่ยวต้องตรวจหาเชื้อก่อนกลับไปยังเมืองของตนเอง ส่วนที่เมืองจูโจว มณฑลหูหนาน ภาคกลาง ประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนได้รับแจ้งว่า ไม่ให้ออกจากบ้านภายใน 3 วันนี้ พร้อมกับมีการระดมตรวจหาเชื้อและฉีดวัคซีนขนานใหญ่ โดยรัฐบาลท้องถิ่นบรรยายสถานการณ์ว่า น่าวิตกและและซับซ้อน

บีบีซี รายงานว่า ขณะนี้สื่อมวลชนส่วนใหญ่ของจีนต่างนำเสนอข่าวการระบาดของเชื้อกลายพันธุ์เดลต้า พร้อมระบุถึงความเห็นของผู้เชี่ยวชาญโรคทางเดินหายใจว่าน่าวิตกอย่างยิ่ง ส่วนเจ้าหน้าที่เชื่อมโยงการระบาดของสายพันธุ์เดลต้ากับการท่องเที่ยวภายในประเทศ

ทั้งนี้ “อู่ฮั่น” ซึ่งเคยได้รับผลกระทบอย่างหนักจากจากเชื้อดังกล่าว ไม่มีรายงานการตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อในท้องถิ่นมานานมากกว่า 1 ปีแล้ว