สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย อินโดนีเซีย และญี่ปุ่น ต่างเผชิญกับการแพร่ระบาดอย่างหนักของโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า
วันที่ 6 สิงหาคม 2564 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ขณะนี้ 135 ประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญกับการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า โดยกำลังเป็นสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว รวมถึงยังเป็นสายพันธุ์ที่ระบาดในประชากรส่วนใหญ่ในหลายประเทศแล้ว
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
“ประชาชาติธุรกิจ” ได้รวบรวม 4 ประเทศที่โควิด-19 สายพันธุ์เดลต้ากำลังแพร่ระบาดอย่างหนัก ดังนี้
“สหรัฐอเมริกา” ถึงแม้จะฉีดวัคซีนได้อย่างรวดเร็ว แต่ทางการพบยอดผู้ติดเชื้อใหม่ต่อวันติดหลักแสน ซึ่งเป็นยอดนิวไฮสูงสุดในรอบ 6 เดือน ทั้งนี้ “โจ ไบเดน” ประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวว่า คลัสเตอร์ระบาดเกือบทั้งหมดเกิดขึ้น ท่ามกลางคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน ซึ่งยังมีมากกว่า 90 ล้านคน หรือ 28% ของประชากรทั้งประเทศ
“มาเลเซีย” ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใหม่พุ่งทะลุ 20,000 คนต่อวันมา 2 วันติดต่อกันแล้ว โดยยอดผู้ติดเชื้อโควิดภายในประเทศมาเลเซีย แตะหลักหมื่นต่อวัน ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า ยอดจะเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ และถึงจุดสูงสุดช่วงเดือนกันยายนนี้
“อินโดนีเซีย” เมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา ยอดผู้เสียชีวิตสะสมจากโควิด-19 ทั้งหมดพุ่งทะลุหลักแสน โดยรอยเตอร์สรายงานว่า อินโดนีเซียได้กลายเป็นประเทศแถบเอเชีย ที่เป็นจุดศูนย์กลางของการแพร่ระบาด และ สาเหตุที่มีคนเสียชีวิตเยอะมาก เนื่องจากว่าระบบสาธารณสุขไม่สามารถรองรับผู้ป่วยได้เพียงพอ รวมทั้งผู้ป่วยไม่สามารถเข้าถึงการรักษา ซึ่งจริง ๆ แล้วหลายกรณีที่เสียชีวิตไป สามารถ “ป้องกันได้” หากได้รับการรักษาที่เหมาะสม
“ญี่ปุ่น” ถึงแม้กำลังอยู่ในระหว่างจัดงาน “โอลิมปิก 2020” แต่ยอดผู้ติดเชื้อที่กรุงโตเกียว พุ่งขึ้นสูงถึง 5,000 คนต่อวัน ซึ่งทำให้ทางการเปลี่ยนนโยบาย จำกัดให้ผู้ที่มีอาการป่วยรุนแรงจากการติดเชื้อโควิด-19 ถึงจะเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลได้เท่านั้น นอกจากนี้ ประชากร 70% ของประเทศทั้งหมดกำลังอยู่ภายใต้ประกาศ “ภาวะฉุกเฉิน”