ออสเตรเลียจ่อปลดมาตรการล็อกดาวน์ เมื่ออัตราการฉีดวัคซีนของประเทศอยู่ที่ร้อยละ 70 ถึงแม้ตอนนั้น จะยังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 อยู่ก็ตาม
วันที่ 24 สิงหาคม 2564 สำนักข่าวแชนเนล นิวส์ เอเชีย รายงานว่า ที่ปรึกษาการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ออสเตรเลีย กล่าวว่า ประเทศจะสามารถกลับมาปลดมาตรการล็อกดาวน์ได้ หลังอัตราการฉีดวัคซีนของประเทศอยู่ที่ร้อยละ 70 ถึงแม้เมื่อถึงตอนนั้น บางเมืองอาจจะยังไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลต้าได้ก็ตาม
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- ราคาทองวันนี้ (29 มี.ค. 67) พุ่งกระฉูด 600 บาท ทองรูปพรรณบาทละ 39,050 บาท
- เลิกอุ้มดีเซล 30 บาท จ่อขยับเพดานราคา 2 บาท มีผล 1 เมษายน 2567
“โดเฮอร์ตี อินสทิทูท” สถาบันเพื่อการวิจัยโรคติดเชื้อและภูมิคุ้มกัน ระบุว่า หากฉีดวัคซีนเกิน 70% แล้วจะทำให้สามารถ “อยู่กับไวรัส” ได้ เหมือนกับไข้หวัดใหญ่ พร้อมกับระบุว่า จะสามารถผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ได้ ถึงแม้ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใหม่ต่อวัน จะอยู่ที่หลักสิบ หรือหลักร้อยก็ตาม ขณะที่ตอนนี้ ประชากรผู้ใหญ่ออสเตรเลีย 30% ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลออสเตรเลีย เปิดเผยแผนการปลดล็อกดาวน์ 4 ระดับ หลังประชาชนได้ฉีดวัคซีนเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้ประชาชนสามารถออกไปใช้ชีวิตได้ ถึงแม้จะยังมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ก็ตาม อย่างไรก็ดี หน่วยงานท้องถิ่นของรัฐควีนส์แลนด์ และรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ออกมาระบุว่า อาจจะไม่ปลดล็อกดาวน์ตามแผน ถึงแม้จำนวนผู้ติดเชื้อจะลดลง
ทั้งนี้ ออสเตรเลีย เป็นหนึ่งในประเทศที่ออกมาตรการล็อกดาวน์ทุกครั้งเมื่อพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ภายในประเทศ และได้คงมาตรการ “ผู้ติดเชื้อต้องเป็นศูนย์” ก่อนที่จะผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์มาตลอด อย่างไรก็ดี “สกอตต์ มอร์ริซัน” นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียกล่าวว่า การล็อกดาวน์ “ตลอดไป” จะส่งผลร้ายมากกว่าผลดีต่อประเทศ