ออสเตรเลีย ได้ทำข้อตกลง “แลกวัคซีน” กับอังกฤษ ซึ่งจะทำให้ได้วัคซีนป้องกันโควิด “ไฟเซอร์-ไบออนเทค” มาอีก 4 ล้านโดส หลังก่อนหน้านี้ ได้วัคซีน 500,000 โดสจากประเทศสิงคโปร์แล้ว
วันที่ 3 กันยายน 2564 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า “สกอตต์ มอร์ริซัน” นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ยืนยันเดินหน้าแผน “เปิดประเทศ” ตามกำหนด หลังได้ทำข้อตกลง “แลกวัคซีน” กับอังกฤษ ซึ่งจะทำให้ออสเตรเลียได้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของ “ไฟเซอร์-ไบออนเทค” มาอีก 4 ล้านโดส
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
ทั้งนี้ มอร์ริซันได้รับคำวิจารณ์อย่างหนัก หลังไม่สามารถจัดหาซัพพลายวัคซีนได้เพียงพอภายในประเทศ ซึ่งทำให้โครงการฉีดวัคซีนดำเนินการไปอย่างล่าช้ากว่ากำหนด ประกอบกับการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า ซึ่งทำให้ทางการต้องออกมาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวด
อย่างไรก็ดี ทางการออสเตรเลียแก้ปัญหาภาวะขาดแคลนวัคซีนด้วยการทำข้อตกลง “แลกวัคซีน” กับประเทศอื่น ขอวัคซีนมาก่อน แล้วค่อยคืนวัคซีนกลับไป อย่างก่อนหน้านี้ที่บรรลุข้อตกลงกับสิงคโปร์ ซึ่งจะส่งวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทค 500,000 โดสให้กับประเทศออสเตรเลีย ขณะที่ทางออสเตรเลียจะส่งวัคซีนคืนให้กับสิงคโปร์ ภายในเดือนธันวาคมนี้
ก่อนหน้านี้ ออสเตรเลียคงนโยบายล็อกดาวน์เพื่อให้ผู้ติดเชื้อเป็น 0 ตามพื้นที่ต่าง ๆ มาโดยตลอด อย่างไรก็ดี หลังจากนี้ได้มีการเปลี่ยนกลยุทธ์ โดยทางรัฐบาลกลาง จะเร่งกดดันให้แต่ละรัฐ และดินแดนภายในประเทศ เร่งผ่อนปรนมาตรการหลังประชากรได้ฉีดวัคซีนตามเป้าหมาย 70-80% ถึงแม้จะยังมีผู้ติดเชื้ออยู่ก็ตาม
