ผู้ถือคริปโทเคอร์เรนซีที่จีน และฮ่องกง กำลัง “วิ่งวุ่น” ปกป้องคริปโทฯ ที่ถืออยู่ หลังธนาคารกลางจีน ประกาศ จะเข้ามาคุมเข้มตลาดคริปโทฯ มากกว่าเดิม
วันที่ 26 กันยายน 2564 สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ผู้ถือสกุลเงินดิจิทัล หรือคริปโทเคอร์เรนซีที่จีน และฮ่องกง กำลัง “วิ่งวุ่น” หาทางปกป้องคริปโทเคอร์เรนซีที่ถืออยู่ เช่น “บิตคอยน์” รวมถึงสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ หลังธนาคารกลางสาธารณรัฐประชาชนจีน (PBOC) ได้ระบุว่า จะเข้ามาคุมเข้มตลาดคริปโทฯมากกว่าเดิม
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
ทั้งนี้ ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทางการจีนได้เร่งเข้าควบคุบคลาดคริปโทเคอร์เรนซี อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา ทางการจีนได้ระบุว่า การทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโทเคอร์เรนซี รวมทั้งแพลตฟอร์มที่ให้บริการดังกล่าว จะผิดกฎหมายในประเทศ รวมถึงจะมีการติดตามกิจกรรมดังกล่าวอย่างเข้มงวดมากกว่าเดิม
โดยก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางจีนได้เรียกคุยกับธนาคาร รวมถึงแพลตฟอร์มการทำธุรกรรมทางการเงิน อย่าง “ธนาคารสัญชาติจีน” (CCB) และแพลตฟอร์ม “อาลีเพย์” (Alipay) ให้เร่งกำชับ ควบคุมกิจกรรมการซื้อ-ขายคริปโทเคอร์เรนซีอย่างใกล้ชิด
ขณะเดียวกัน ทางธนาคารกลางจีน กำชับสถาบันการเงิน และแพลตฟอร์มชำระเงินให้เริ่มตรวจสอบบัญชีผู้ใช้งานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อ-ขายคริปโทเคอร์เรนซี และระงับช่องทางดังกล่าว พร้อมกับระบุด้วยว่า การซื้อ-ขายด้วยสินทรัพย์ดังกล่าว มีความเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฏหมาย อย่างการฟอกเงิน รวมถึงเสี่ยงต่อสถานะการเงิน ของผู้ที่ซื้อ-ขายคริปโทเคอร์เรนซีเองด้วย
โดยทางการจีนเคยระบุว่า ประเทศจำเป็นที่จะต้องมีการควบคุมกิจกรรมการขุดและการซื้อ-ขายบิตคอยน์อย่างใกล้ชิด เพื่อที่หน่วยงานต่าง ๆ จะได้สามารถคุ้มครองระบบการเงินของประเทศ ยับยั้งกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย และนำบุคคลกระทำผิดมาลงโทษ รวมทั้งให้หน่วยงานประเทศสามารถดำเนินงานด้านหุ้น หนี้สิน และตลาดเงินตราต่างประเทศ ได้อย่างราบรื่น
