“อีลอน มัสก์” มองว่า รัฐบาลสหรัฐไม่ควรเข้าไปออกมาตรการ มุ่งควบคุมตลาดคริปโทเคอร์เรนซี เนื่องจากมาตรการต่าง ๆ อาจทำให้ตลาดเติบโตช้าลง
วันที่ 29 กันยายน 2564 สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า “อีลอน มัสก์” ซีอีโอบริษัทเทสลา อิงค์ และสเปซเอ็กซ์ ออกมาระบุว่า รัฐบาลสหรัฐไม่ควรเข้าไปออกมาตรการมุ่งควบคุมตลาดสกุลเงินดิจิทัล หรือคริปโทเคอร์เรนซี แต่ถึงรัฐบาลจะเข้ามาควบคุมจริง ถึงแม้จะเข้ามาทำลายทั้งตลาดคริปโทฯ ไม่ได้ แต่อาจจะทำให้ตลาดเติบโตช้าลง
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
ขณะเดียวกัน มัสก์มองสถานการณ์คริปโทเคอร์เรนซีในจีน หลังจากโดนควบคุมอย่างหนักจากรัฐบาล ว่าสาเหตุที่รัฐบาลต้องเข้าควบคุม เป็นผลมาจากกระบวนการขุดคริปโทเคอร์เรนซีอย่างบิตคอยน์ ซึ่งใช้พลังงานไฟฟ้ามหาศาล พร้อมกับมองว่า การขุดบิตคอยน์อาจเป็นส่วนหนึ่ง ที่ทำให้ตอนนี้จีนขาดแคลนพลังงานไฟฟ้า
ทั้งนี้ มัสก์ถือเป็นหนึ่งในบุคคลหลัก ที่ปลุกกระแส คริปโทเคอร์เรนซี โดยเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา มัสก์ระบุว่าบริษัท “เทสลา” ลงทุนซื้อบิตคอยน์ มูลค่ามากถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังเปิดรับการซื้อรถยนต์ของบริษัท ด้วยบิตคอยน์ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้
แต่หลังจากนั้น ข้อมูลผลประกอบการช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมาของเทสลา พบว่าทางบริษัทได้ขายบิตคอยน์ที่ลงทุนไปแล้ว 10% และได้กำไรจากส่วนนี้มากถึง 101 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ได้ประกาศระงับการซื้อรถยนต์ของบริษัทเทสลา ด้วยบิตคอยน์ชั่วคราว เนื่องจากมองว่าเป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อม
