“คิม จอง อึน” เสนอฟื้นฟูสายด่วน ระหว่าง 2 เกาหลี เพื่อความปรองดอง

PHOTO : North Korea's Korean Central News Agency (KCNA) via REUTERS

ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ชี้มีความเต็มใจจะฟื้นฟูสายด่วนการสื่อสาร ระหว่างเกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้อีกครั้งในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อความปรองดอง

วันที่ 30 กันยายน 2564 สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า “คิม จอง อึน” ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ กล่าวว่า เขามีความเต็มใจที่จะฟื้นฟูสายด่วนการสื่อสารที่สำคัญระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้อีกครั้งในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อความปรองดอง

สำหรับความคิดเห็นล่าสุดของผู้นำคิม เกิดขึ้นระหว่างการประชุมสภาประชาชนสูงสุด ที่เป็นองค์กรนิติบัญญัติที่สูงที่สุดของเกาหลีเหนือในวันที่ 2 ซึ่งมีการหารือเกี่ยวกับประเด็นทั้งทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมของประเทศตามการรายงานของสำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือ

ขณะที่ มติชน รายงานคำกล่าวของผู้นำคิม ว่า การตัดสินใจที่จะกลับมาฟื้นสายด่วนระหว่างกันอีกครั้งก็เพื่อช่วยให้เข้าใจถึงความคาดหวังและความปรารถนาของสองเกาหลี และเพื่อฟื้นฟูสันติภาพรวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างกันตลอดพรมแดนให้ยั่งยืน

ผู้นำคิม ยังวิพากษ์วิจารณ์เกาหลีใต้ว่า หลงผิดต่อสิ่งที่ระบุว่าเป็นการยั่วยุทางการทหารจากเกาหลีเหนือ เพราะเกาหลีเหนือไม่ได้ตั้งใจหรือมีเหตุผลใดที่จะยั่วยุเกาหลีใต้ และเราไม่มีความคิดที่จะทำอันตรายเกาหลีใต้เช่นกัน เป็นความจำเป็นที่เกาหลีใต้จะต้องขจัดความหลงผิดของตนเองให้ทันท่วงที

PHOTO : North Korea’s Korean Central News Agency (KCNA) via REUTERS

ขณะเดียวกันผู้นำเกาหลีเหนือยังได้แสดงท่าทีที่แข็งกร้าวต่อรัฐบาลสหรัฐ โดยกล่าวหารัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ว่าใช้นโยบายและวิธีที่เจ้าเล่ห์มากขึ้นในการเพิ่มภัยคุกคามทางทหารและดำเนินนโยบายที่เป็นปรปักษ์ต่อเกาหลีเหนือ แต่กลับเสนอให้มีการเจรจาระหว่างกัน

“สหรัฐอ้างว่าจะใช้การมีปฏิสัมพันธ์ทางการทูตและการเจรจาโดยปราศจากเงื่อนไข ใช้กลลวงเช่นนี้เพื่อหลอกประชาคมระหว่างประเทศ และปิดบังการกระทำอันไม่เป็นมิตรรวมถึงการขยายนโยบายอันเป็นปรปักษ์อย่างต่อเนื่องของตนเอง” คิม จอง อึน กล่าว

คำประกาศฟื้นสายด่วนระหว่างสองเกาหลีมีขึ้นหลังจากที่เกาหลีเหนือเพิ่งอ้างว่าประสบความสำเร็จในการทดลองขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงเพียงหนึ่งวัน

ทำให้นักวิเคราะห์มองว่าท่าทีล่าสุดของเกาหลีเหนือเป็นเพียงความพยายามที่จะให้ได้รับการยอมรับจากประชาคมระหว่างประเทศในฐานะประเทศที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ และ พยายามที่จะตอกลิ่มให้เกิดความแตกแยกระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐ

โดยคำนึงจากความปรารถนาของประธานาธิบดีมุน แจ อิน ต้องการสร้างผลงานทางการทูตก่อนที่จะครบวาระการดำรงตำแหน่งในปีหน้า

ผู้นำเกาหลีเหนือกล่าวด้วยว่า เพื่อที่จะมีการประกาศยุติสงครามเกาหลีอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นสิ่งที่ประธานาธิบดีมุนได้กล่าวต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ประการแรกทั้งสองเกาหลีจะต้องยุติทัศนคติที่ไม่ยุติธรรมและสองมาตรฐาน รวมถึงมุมมองและนโยบายที่เป็นปรปักษ์ต่อกันเสียก่อน