
“เจเน็ต เยลเลน” รัฐมนตรีคลังสหรัฐ คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจประเทศเสี่ยงเข้าสู่ “ภาวะถดถอย” หากสภาคองเกรสไม่อนุมัติการขยายหรือระงับเพดานหนี้ ก่อนวันที่ 18 ตุลาคมนี้
วันที่ 6 ตุลาคม 2564 สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า “เจเน็ต เยลเลน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของสหรัฐอาจจะเข้าสู่ “ภาวะถดถอย” หากสภาคองเกรสไม่ขยายเพดานหนี้ เพื่อช่วยให้สหรัฐไม่ผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งจะถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศ
ทั้งนี้ เยลเลนกล่าวว่า วันที่ 18 ตุลาคมนี้ถือเป็นวัน “ขีดเส้นตาย” และจะเป็นหายนะอย่างมาก หากไม่ขยายเพดานหนี้ เนื่องจากขาดแคลนทรัพยากรสำหรับการชำระเงินค่าใช้จ่ายของรัฐบาล
โดยหากสภาคองเกรสไม่ขยายเพดานหนี้ รัฐบาลสหรัฐก็จะไม่สามารถจ่ายหนี้ตามภาระผูกพันได้ ซึ่งเยลเลนมองว่า ผลกระทบของหายนะดังกล่าว อาจถึงขั้นทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ “ภาวะถดถอย”
ก่อนหน้านี้ เยลเลนระบุว่า เงินภายในหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐบาลกลางจะหมดลง หากสภาคองเกรส ไม่เพิ่มเพดานหนี้หรือระงับเพดานหนี้ก่อนวันที่ 18 ตุลาคมนี้ และหากไม่มีการออกมาตรการดังกล่าว เงินและทรัพยากรของรัฐบาลกลางจะหมดลงอย่างรวดเร็ว
รายงานข่าวระบุว่า เพดานหนี้คือ จำนวนเงินที่รัฐบาลสหรัฐได้รับอนุมัติเพื่อให้รัฐบาลสามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสวัสดิการต่าง ๆ ทั้งในด้านสุขภาพ, ประกันสังคม รวมถึงดอกเบี้ยตราสารหนี้ของรัฐบาล และการใช้จ่ายอื่น ๆ