ความสำเร็จ ‘อีลอน มัสก์’ บุคคลที่รวยที่สุดในโลก

ปีนี้อาจถือว่าเป็นปีทองของ “อีลอน มัสก์” ซีอีโอบริษัท “เทสลา อิงก์” และ “สเปซเอ็กซ์”

ซีเอ็นบีซีรายงานว่า มูลค่าตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ของบริษัทเทสลา อิงก์ ได้พุ่งทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เทสลากลายเป็นบริษัทรถยนต์แรก และเป็นบริษัทที่ 5 ของโลก ที่เข้าเป็นสมาชิกของบริษัทสหรัฐที่มีมูลค่ามากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามหลังแอปเปิล อิงก์, อเมซอน, ไมโครซอฟท์ และอัลฟาเบต

ทั้งนี้ มูลค่าของบริษัทเทสลาพุ่งกระฉูด หลังจากที่บริษัท “เฮิรตซ์” (Hertz) ผู้ให้บริการเช่ารถยนต์รายใหญ่ประกาศว่า ได้สั่งซื้อรถยนต์ไฟฟ้าของเทสลา จำนวนมากถึง 100,000 คัน

โดยแถลงการณ์ดังกล่าว ทำให้ราคาหุ้นเทสลาพุ่งขึ้นเกือบ 15% และทำให้กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และทำให้ “อีลอน มัสก์” รวยขึ้นกว่าเดิมมากถึง 3.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในช่วงข้ามคืน

แม้บริษัทรถยนต์ส่วนใหญ่จะไม่ “โอ้อวด” ยอดขายกับบริษัทให้เช่ารถยนต์ เนื่องจากเป็นการขายรถในราคาถูก รวมถึงเป็นรถที่ตกรุ่นไปแล้ว รวมถึงยังมีเงื่อนไขการซื้อคืนและอื่น ๆ

อย่างไรก็ตาม สำหรับนักลงทุน การตัดสินใจของเฮิรตซ์ในการซื้อรถยนต์เทสลามากถึง 1 แสนคัน ภายในปี 2022 แสดงให้เห็นว่า รถยนต์ไฟฟ้านั้นไม่ใช่แค่สำหรับตลาดเฉพาะกลุ่มแล้ว

ขณะเดียวกัน เมื่อช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา เทสลามีรายได้สูงถึง 1.38 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว มากถึง 57%

และเทสลายังได้กำไรมากถึง 1.62 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วมากถึง 4 เท่า ซึ่งรายได้และกำไรดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่โลกเผชิญปัญหาซัพพลายเชน โดยเฉพาะภาวะขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์

โดยผลกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล เนื่องจากมีการเพิ่มกำลังการผลิตที่ประเทศจีน ซึ่งเทสลาระบุว่า ค่าแรงและต้นทุนการดำเนินงานที่ต่ำในจีน มีส่วนอย่างมากในการทำให้กำไรในช่วงไตรมาสที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ สำหรับยอดขายรถยนต์ของเทสลาเมื่อช่วงไตรมาสที่ผ่านมา บริษัทส่งมอบรถได้ถึง 241,300 คันทั่วโลก เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว มากถึง 73%

โดยเทสลาทำยอดขายทุบสถิติในจีน ช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา สามารถส่งมอบรถได้มากถึง 52,153 คัน

ขณะเดียวกัน บริษัทท่องเที่ยวอวกาศ “สเปซเอ็กซ์” ของอีลอน มัสก์ ซึ่งประเมินว่า บริษัทมีมูลค่าสูงถึง 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ก็ถูกมองว่านำหน้าคู่แข่งอย่าง “บลู ออริจิ้น” ของ เจฟฟ์ เบซอส และ “เวอร์จิ้น กาแล็กติก” ของ ริชาร์ด แบรนสัน อย่างมาก ทั้งนี้ ถึงแม้มหาเศรษฐีทั้ง 3 คน จะแข่งขันในธุรกิจท่องเที่ยวอวกาศอย่างดุเดือด แต่ทั้ง 2 บริษัทแทบจะ “เปรียบเทียบไม่ได้” กับสเปซเอ็กซ์ของ อีลอน มัสก์ เนื่องจากประสบการณ์การท่องเที่ยวอวกาศที่ต่างกับคู่แข่ง

โดยสเปซเอ็กซ์บินเข้าสู่อวกาศในระยะทางที่ไกลกว่ายานของทั้ง 2 บริษัทอย่างมาก รวมทั้งยังเป็นการเดินทางหลายวันบนอวกาศ ขณะที่ยานอวกาศของบลู ออริจิ้น และเวอร์จิ้น กาแล็กติกนั้น เดินทางบนวงโคจรของอวกาศเพียงไม่กี่นาที ก่อนบินกลับเข้าสู่พื้นโลกอีกครั้ง

ดังนั้น เหล่านักวิเคราะห์มองว่า สเปซเอ็กซ์ตอนนี้นำหน้าทางนวัตกรรมในหลาย ๆ ด้านอย่างมาก และนวัตกรรมของยานอวกาศของบลู ออริจิ้น และเวอร์จิ้น กาแล็กติก ยังค่อนข้าง “ล้าหลัง” เมื่อเปรียบเทียบกัน

รายงานข่าวระบุว่า อีลอน มัสก์ นอกจากจะขึ้นแท่นเป็นเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลกแล้ว อาจจะเป็นคนแรกที่มีความมั่งคั่งสุทธิถึง 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ

โดยเมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา ความมั่งคั่งสุทธิของ อีลอน มัสก์ อยู่ที่ 2.89 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำให้นำหน้า “เจฟฟ์ เบซอส” เศรษฐีอันดับ 2 เกือบ 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ

และหากเทียบสถิติกับมหาเศรษฐีโลกคนอื่น ๆ “อีลอน มัสก์” มีความมั่งคั่งสุทธิมากกว่า “บิล เกตส์” ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์ มากถึง 1.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และนำหน้า “วอร์เรน บัฟเฟตต์” ซีอีโอของบริษัท เบิร์กเชียร์ฮาธาเวย์ มากถึง 1.84 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ

แม้ว่า “อีลอน มัสก์” จะประสบความสำเร็จสร้างความมั่งคั่งจากราคาหุ้นของเทสลา และทำให้บริษัทมีมูลค่ามาร์เก็ตแคปมากกว่ายักษ์บริษัทรถยนต์อีก 9 แห่งรวมกัน


แต่ทว่าส่วนแบ่งยอดขายรถยนต์ของเทสลาทั่วโลกยังน้อยกว่า 1% ซึ่งยังตามหลังคู่แข่งบริษัทรถยนต์เจ้าอื่นอย่างมาก