ไบเดน – สีจิ้นผิง คาดหารือประเด็นไต้หวัน ในการประชุมฟื้นสัมพันธ์

คาดไบเดน-สีจิ้นผิง หารือเรื่องไต้หวัน
REUTERS/Lintao Zhang/Pool//File Photo

ความตึงเครียดของไต้หวัน มีแนวโน้มจะถูก “โจ ไบเดน” ประธานาธิบดีสหรัฐและ “สี จิ้นผิง” หยิบยกขึ้นมาหารือ ขณะที่ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐยัน สหรัฐกับพันธมิตรจะปกป้องไต้หวันจากจีน

วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 อัลจาซีรา รายงานว่า ความตึงเครียดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในไต้หวัน คาดว่าจะกลายเป็นประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาหารือในการประชุมเสมือนจริงระหว่าง “โจ ไบเดน” ประธานาธิบดีสหรัฐ และ “สี จิ้นผิง” ประธานาธิบดีจีน ควบคู่กับประเด็นอื่น ๆ ตั้งแต่สงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ไปจนถึงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2022

“หวัง หยาง” รัฐมนตรีต่างประเทศจีน เน้นย้ำว่า ประเด็นเรื่องไต้หวันเป็นจุดสำคัญของความขัดแย้ง ระหว่างการพูดคุยของเขากับ “แอนโทนี บลิงเคน” รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ก่อนหน้าการประชุมเสมือนจริงของไบเดนและสี ซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงเย็นวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น

มีรายงานว่า หวังได้เตือนสหรัฐว่าอย่าสนับสนุนเอกราชของไต้หวัน ขณะที่สื่อทางการจีนอย่าง “ไชน่าเดลี” เรียกร้องให้สหรัฐยึดถือในหลักการจีนเดียว (One China Principle) ซึ่งเป็นนโยบายของทางการจีนที่ระบุว่า ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน ส่วนสื่อจีนอีกสำนักอย่าง “โกลบอลไทม์ส” รายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่สหรัฐ ได้ข้ามเส้นแดง และสมคบกับ “ไช่ อิงเหวิน” ประธานาธิบดีไต้หวัน

หลังเข้ารับตำแหน่งในทำเนียบขาวเมื่อเดือนมกราคม ฝ่ายบริหารของไบเดนแสดงท่าทีชัดเจนว่าสนับสนุนไต้หวัน เมื่อเทียบกับประธานาธิบดีสหรัฐคนอื่น ๆ จากพรรคเดโมแครต

บลิงเคนกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า สหรัฐและพันธมิตรจะดำเนินการเพื่อปกป้องไต้หวัน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในคำเตือนที่รุนแรงที่สุดของทางการสหรัฐฯ

สหรัฐและไต้หวันยังคงไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการ แต่สหรัฐเคยให้คำมั่นว่าจะให้การสนับสนุนเพื่อให้ไต้หวันสามารถปกป้องตนเองภายใต้ข้อตกลง 1979

แม้จะเป็นปัญหาที่ดำเนินมายาวนานระหว่างสหรัฐกับจีน แต่ความตึงเครียดต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับไต้หวันเริ่มร้อนระอุขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากจีนส่งเครื่องบินรบเกือบ 140 ลำ ซึ่งรวมถึงการส่งเครื่องบินรบ 56 ลำภายในวันเดียว ไปยังเขตป้องกันภัยทางอากาศของไต้หวัน (ADIZ) เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคม

รายงานของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วระบุว่า มีการส่งเครื่องบินรบเข้าไปยังเขต ADIZ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่ประธานาธิบดีไช่เข้ารับตำแหน่งเมื่อปี 2559 และเพิ่มขึ้นอีกในปีที่ผ่านมา รายงานระบุด้วยว่า จีนอาจสามารถโจมตีไต้หวันได้ภายในปี 2570

“ไจ ไมเคิล โค” นักวิจัยอาวุโสจากสถาบันแมคโดนัลด์-ลอรีเอะ ประเทศแคนาดา ให้สัมภาษณ์อัลจาซีราว่า ทางการจีนกำลังพยายามโดดเดี่ยวไต้หวัน

“สหรัฐมีแนวโน้มรับประกันความปลอดภัยให้ไต้หวันมากขึ้น ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับจีน ที่กำลังโน้มน้าวไต้หวันว่า ไต้หวันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการยอมจำนน” เขากล่าว

การละเมิดสิทธิมนุษยชน

อย่างไรก็ตาม ไต้หวัน เป็นเพียงหนึ่งในหลายประเด็นที่คาดว่าสีกับไบเดนจะนำมาหารือ เนื่องจากทั้งสองประเทศยังเผชิญข้อพิพาททางการค้าระหว่างกัน ตั้งแต่สมัยอดีตประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” นอกจากนี้ยังมีความไม่ลงรอยกันในประเด็นอื่น ๆ เช่น การละเมิดสิทธิมนุษยชนและการปราบปรามทางการเมืองของจีน ที่มีต่อเขตปกครองตนเองซินเจียง, ทิเบต และฮ่องกง

ความกังวลต่าง ๆ เกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนของจีน ทำให้กระทรวงต่างประเทศสหรัฐแสดงท่าทีไม่เห็นด้วย แต่ก็หลีกเลี่ยงที่จะแตะประเด็นเรื่องการคว่ำบาตรการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 ที่กรุงปักกิ่ง ซึ่งเรื่องนี้อาจสร้างความไม่สบายใจให้กับไบเดน เพราะมีการคาดการณ์ว่าสีอาจเชิญเขาเข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขัน ตามรายงานของซีเอ็นบีซี

“การติดต่อส่วนตัวระหว่างผู้นำประเทศจะมีผลต่อนโยบายสหรัฐ-จีนหรือไม่นั้น เรื่องนี้ยังคงไม่ชัดเจน” แมทธิว กู๊ดแมน อดีตที่ปรึกษาด้านทวีปเอเชียของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ ให้สัมภาษณ์รอยเตอร์ส


ในระยะสั้น ทั้งจีนและสหรัฐได้แสดงให้เห็นว่า ทั้งสองประเทศสามารถร่วมมือกันในประเด็นต่าง ๆ ได้ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แม้จะมีความตึงเครียดทางการเมืองอื่น ๆ โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วทั้งสองประเทศได้ลงนามในข้อตกลงที่สร้างความประหลาดใจ ในการประชุมสุดยอดด้านสภาพอากาศของสหประชาชาติในสกอตแลนด์