ออสเตรีย ล็อกดาวน์คนไม่ฉีดวัคซีน ฝ่าฝืนถูกปรับเงิน

ออสเตรียล็อกดาวน์คนไม่ฉีดวัคซีน
REUTERS/Leonhard Foeger

ออสเตรียบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ ตำรวจปรับเงินคนไม่ฉีดวัคซีน เข้าใช้บริการสถานที่ต่าง ๆ 

วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 บลูมเบิร์กรายงานว่า ตำรวจออสเตรียได้รับคำสั่งให้สกัดและตรวจสอบประชาชนตามท้องถนน เพื่อบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์กับผู้ที่ปฏิเสธการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ซึ่งถือเป็นหนึ่งในมาตรการที่เข้มงวดขึ้นทั่วยุโรป เพื่อรับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่พุ่งขึ้น

กระทรวงมหาดไทยออสเตรีย เผยว่า มาตรการล็อกดาวน์ดังกล่าวเริ่มใช้ตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไป โดยผู้ที่ไม่สามารถแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน ก่อนเข้าใช้บริการโรงหนัง โรงยิม และร้านค้าปลีก จะถูกปรับอย่างน้อย 500 ยูโร หรือราว 18,000 บาท ส่วนผู้ประกอบการที่ให้บริการคนกลุ่มนี้อาจถูกปรับ 3,600 ยูโร หรือราว 134,000 บาท

“ออสเตรียต้องเร่งฉีดวัคซีน เนื่องจากมีอัตราการฉีดวัคซีนที่ต่ำจนน่าอัปยศอดสู” อเล็กซานเดอร์ แชลเลินแบร์ค นายกรัฐมนตรีออสเตรียกล่าวในงานแถลงข่าวที่กรุงเวียนนา พร้อมกับบอกด้วยว่า “เราจะไม่ใช้มาตรการนี้อย่างเบามือ โชคไม่ดีที่มันเป็นเรื่องจำเป็น”

เอพี รายงานว่า มาตรการล็อกดาวน์คนไม่ฉีดวัคซีนที่บังคับใช้ทั่วประเทศออสเตรีย ห้ามไม่ให้ผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนอายุ 12 ปีขึ้นไปออกจากบ้าน เว้นแต่การทำกิจวัตรพื้นฐาน เช่น การทำงาน ซื้อของชำ เดินเล่น หรือเดินทางไปรับวัคซีน

มาตรการที่เข้มงวดนี้ส่งผลต่อประชาชนประมาณ 2 ล้านคน จากทั้งหมด 8.9 ล้านคน อย่างไรก็ตาม มาตรการนี้จะไม่บังคับใช้กับเด็กอายุไม่ถึง 12 ปี เนื่องจากเด็กกลุ่มนี้ยังไม่สามารถรับวัคซีนจากทางการได้ เบื้องต้น รัฐบาลออสเตรียประกาศบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ 10 วัน

มาตรการควบคุมโควิดของออสเตรียนั้น เกิดขึ้นหลังจากศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแห่งยุโรปเตือนว่า ผู้ป่วยโควิดกำลังเพิ่มจำนวนมากขึ้น และยุโรปกำลังกลายเป็นศูนย์กลางการระบาด หลายรัฐบาลในยุโรปกำลังเร่งควบคุมโรคเพื่อรักษาระบบสาธารณสุข